หลวงพ่อปลูกกล้วยไม้ไว้ในกระถางหน้ากุฏิกระถางหนึ่งอย่ างทะนุถนอม
ยิ่งนานวันกล้วยไม้ยิ่งเติบโต ออกด อกสวยงามน่าชม
วันหนึ่ง หลวงพ่อต้องออกไปธุระหลายวัน เลยฝากเณรน้อยให้ช่วยดูแลกุฏิ
และ รดน้ำต้นไม้รอบ ๆ กุฏิ เณรน้อยก็ทำหน้าที่ได้อย่ างไม่ข าดต กบกพร่อง เอาใจใส่ดูแลอย่ างดี
วันหนึ่งเณรน้อยต้องออกไปธุระ… ก่อนออกไปก็ได้เอากระถางกล้วยไม้ไปวางรับแดดริมหน้าต่าง
หลังจากนั้นเกิดพายุรุ นแรงอย่ างไม่คาดคิด พัดเอากระถางต กลงบนพื้นแต กกระจาย
เณรเสร็จจากธุระกลับมาถึงกุฏิก็เห็นกระถางที่แต กกระจายอยู่บนพื้น ด้วยความต กใจ
และ ยังกลัวถูกหลวงพ่อตำหนิด้วย จึงไม่ได้แจ้งให้หลวงพ่อทราบ
ไม่กี่วันจากนั้น หลวงพ่อกลับมาจากการเดินทางไปทำธุระ หลวงพ่อไม่เห็นกล้วยไม้กระถางนั้นอีก
แต่หลวงพ่อก็ไม่ได้ถามหาอะไร จนนานวันเข้า… เณรน้อยรู้สึกอึดอัด และ รู้สึกผิด จึงไปเล่าความจริงให้หลวงพ่อทราบ
แต่หลวงพ่อกลับไม่ได้ว่าอะไร ทำให้เณรประหลาดใจเป็นอย่ างมาก…!!
เณรน้อยจึงถามหลวงพ่อว่า… ” ท่านจะไม่ตำหนิ หรือ โกรธผมหรอ ที่ดูแลกล้วยไม้ไว้ไม่ได้ “
หลวงพ่อเพียงยิ้ม ๆ แล้วกล่าวเพียงแค่ว่า… ” ข้าปลูกกล้วยไม้ ไม่ได้เพื่อไว้โกรธนะ “
คำง่าย ๆ กลับกลายเป็นสัจธรรม ที่ชี้นำทางสว่างให้เณรนั้นฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ และ บรรลุธรรมขึ้นไปอีกขั้น
สิ่งของต่าง ๆ รอบกาย ไม่ได้มีไว้เพื่อโกรธกัน สิ่งที่แต กสลาย หรือ พังไปแล้วเมื่อเอากลับมาไม่ได้
หากเราเรียนรู้ที่จะรู้จักถนอมน้ำใจคนรอบกายเราไว้ ไม่ต้องเสี ยใจ หรือ โ ทษใคร
ตอนมีต้องใส่ใจ ตอนเสี ยไปให้ปลดปลง ถ้าคุณเสี ยใจกับสิ่งของที่เสี ยไป
คุณอาจพลั้งเผลอหลุดคำพูดอะไรออกไป จนกระทบความรู้สึกของคนรอบกาย คุณอาจเสี ยคนข้างกายไปด้วย
ถ้าคุณโกรธ ชีวิต ก็เต็มไปด้วยความโกรธ
ถ้าคุณรู้จักให้อภั ย โลกนี้ก็เต็มไปด้วยสิ่งที่น่ามอง
ไม่ใช่โลกนี้เลือกคุณ แต่… คุณเป็นคนเลือกว่าจะให้โลกใบนี้เป็นอย่ างไร
ถ้ารู้แบบนี้แล้ว… จงอย่ าโกรธ ลูก พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน หรือ คนรอบข้าง
เราเกิดมา มีตัวตนอยู่ เพื่อทำให้คนรอบข้างมีความสุข ไม่ใช่เพื่อโกธรใคร
ขอบคุณที่มา : bitcoretech