1. ใช้ชีวิตอยู่กับ’วันนี้’มีความสุขกับปัจจุบันเท่านั้น
จงพึงระลึกไว้เสมอว่า ‘ปัจจุบัน’ เท่านั้นที่จะทำให้เธอมีความสุข เพราะเรายังมีชีวิต
ยังหายใจอยู่ในช่วงเวลานี้ อย ากจะแก้ไขหรือวางแผนอะไร ก็ทำได้แค่ในปัจจุบันเท่านั้น
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่ ามัวแต่จมปลัก กับอดีตหรือกลัวอนาคต ไม่อย่ างนั้นเธอก็จะยังย่ำอยู่ที่เดิม
ยิ่งถ้าทำปัจจุบันให้ดี ภาพฝันในอนาคตที่วาดไว้ ก็จะเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นด้วยนะ
2. ยอมรับความจริงว่า ‘เราควบคุมทุ กอย่ างในโลกนี้ไม่ได้
ใครที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ เราอย ากบอกเธอว่า เธอไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ทุ กอย่ าง
มันเป็นไปตามคร รลองของมัน เราไปบังคับหัวใจคนอื่น ทางเลือกของคนอื่นไม่ได้
เหมือนที่เรากำหนดสภาพดิน ฟ้าอากาศไม่ได้นั่นแหละ แต่เราเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ
แค่เราต้องรู้จักรับมือกับมัน หาด้านดีที่เกิดขึ้นแล้วใช้ชีวิตต่อไป แล้วทุ กอย่ างจะเข้ารูป
เข้ารอยของมันเอง ไม่แน่ว่ามองย้อนกลับมา เธออาจจะรู้สึกว่าดีแล้วที่เลิกรากับคนแบบนี้ก็ได้
3. ขอบคุณ’ตัวเอง’ในทุ ก ๆ วันที่ยังมีชีวิตอยู่
แผลในใจกว่าจะหาย อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปี แต่เวลาจะช่วยเยียวย า
ให้ทุ กอย่ างดีขึ้น จงขอบคุณตัวเองมากๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ อะไรที่เคยทำผิ ดพลาดไปก็แค่ยอมรับ
แก้ไขเท่าที่ทำได้แล้วก้าวต่อไป ยังมีเพื่อนๆ และครอบครัว คอยซัพพ อร์ตเธออยู่เสมออยู่แล้ว
เข้มแข็งไว้นะคะ
4. รักทุ กสิ่งในร่ างกายของตัวเอง แม้ว่าหุ่นของเธอจะ ‘ไม่เพ อร์เฟกต์’
พ ระเจ้ าปั้นแต่งรูปร่างนี้ให้เธอ ให้เธอได้ใช้ชีวิตในโลกใบนี้ หากยังมีอวั ยวะครบ 32 ก็ถือว่า
เธอโ ชคดีมาก ๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนั ก เส พติ ดศัลยกร รม ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ
พย าย ามเป็นคนสวยในบรรทัดฐานสังคมปลอมๆ สุดท้ายก็รู้สึกกลวงโบ๋ ว่างเปล่า
เพราะเป็นได้แค่เงาของคนอื่นเท่านั้น จงรักและมีความสุขกับรูปร่างของตัวเอง
เพราะนี่คือตัวตนของเธอ และไม่มีใครจะมาแทนที่ได้ค่ะ
5. เช็ค’สภาพจิตใจตัวเอง’ในทุ กเช้า หากรู้สึกแ ย่ ต้องรีบเยียวย าทันที
ลองเริ่มจากก้าวแรกด้วยการ ‘เช็คสภาพจิตใจตัวเอง’ สมมุติว่าตัวเองเป็นหมอ นั่งเงียบ ๆ
หน้ากระจกในห้องนอน แล้วถามตัวเองว่า ‘เธอรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า ยังโอเคอยู่ไหม’
แล้วฟังเสี ยงหัวใจแบบไม่หลอกตัวเอง ถ้ารู้ว่าตัวเองเริ่มดิ่งแล้วต้องรีบหาหนทางแก้ไข
จะไปหาหมอจริง ๆ ปรึกษาเพื่อนหรือไปคลายเค รียดก็ได้ แต่อย่ าซุกปัญหาไว้ใต้พ รม
รังแต่จะทำให้ทุ กอย่ างแ ย่ลง แคร์ตัวเองบ้าง เชื่อเรานะคะ
6. เผชิญหน้ากับ’ความคิดด้านลบ’ของตัวเองให้ได้
บางครั้งคนที่ทำร้ ายจิตใจเรามากสุด ก็คือตัวเราเองนี่ล่ะค่ะ โท ษตัวเอง ด่าตัวเองในเรื่องต่างๆ
ทำให้สภาพจิตใจหม่นหม อง กลายเป็นคนคิ ดลบไปโดยไม่รู้ตัว นานเข้าเธอก็จะคิดว่าการพูดจาแ ย่ ๆ
เป็นเรื่องปกติ และเอาไปพูดกับคนอื่นด้วย ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ต้องสกัดตั้งแต่ในหัว
ตัวเองเลย เมื่อเราปล่อยพื้นที่ให้อ ารมณ์ทางบวก ทัศนคติลบก็จะค่อย ๆ หายไป เราจะคิดบวกและรักตัวเองมากขึ้นค่ะ
ขอบคุณที่มา : jingjingna