ในยุคที่ทุ กครอบครัวต้องดิ้นรนทํามาหากิน พ่อแม่ต้องออกจากบ้านไปทํางาน
กันมากขึ้น เพื่อให้ได้เ งินมาจับจ่ายใช้สอยภายในบ้าน คุณพ่อคุณแม่หลายท่าน
ต้องทํางานอย่ างหนัก เพื่อซื้อข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงลูกให้อิ่มท้อง ส่งเสี ยลูกเรียน
และซื้อของที่ลูกอย ากได้ แม้ปัจจัย 4 เป็นสิ่งพื้นฐานที่ทําให้เ ด็กเติบโตทางกาย
แต่ความรักจากผู้เลี้ยงดูเป็นปัจจัยที่ข าดไม่ได้เช่นกันต่อการเติบโตทางใจของเด็ ก
ทุ กคน ซึ่งลูกรับรู้ความรักจากการที่พ่อแม่มีเวลาคุณภาพให้กับเขา เกิดเป็นสาย
สัมพันธ์เชื่อมโยงใจถึงใจ ดังนั้น “เวลาคุณภาพ” จาก พ่อแม่ จึงเป็นเสมือนปัจจัย
ที่ 5 เเละเป็นอาหารหล่อเลี้ยงจิตใจให้เด็ กเติบโตอย่ างเข้มแข็ง หากขา ดปัจจัยนี้
ไป คงไม่ต่างอะไรกับต้นไม้ที่เติบโตสูงใหญ่ แต่ข้างในนั้นอาจจะเว้าแหว่ง วันใดที่
ลมพัดแรงอาจจะทําให้ล้ มทั้งยืน ด อกเบี้ยของการซ่อมแซมนั้นแพงมหาศาล หาก
เทียบกับการลงทุนลงแรงสร้างเพียง 6 ปีเเรกในชีวิตของเด็ กคนหนึ่ง เพราะการซ่อม
ผู้ใหญ่นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เราอาจจะต้องซ่อมกันไปทั้งชีวิต ข้อความนี้แม้จะ
ฟังดูเกินจริงแต่เมื่อได้รับฟังปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านนํามาปรึกษาแล้วคง
พูดได้เลยว่าข้อความดังกล่าวนั้นอาจจะไม่ได้เกินไปจากความจริงเลย วันนี้จึงอย าก
แบ่งปันเรื่องราวของสองครอบครัวที่มีลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่นมาบอกเล่าให้ฟัง
ครอบครัวที่ 1
เล่าว่า “ลูกวัยรุ่นอายุ 15 ปี ไม่เชื่อฟังคุณแม่ ติ ดโทรศัพท์อย่ างหนัก
และชอบหนีโรงเรียน ตอนลูกยังเล็ก คุณแม่ได้ฝากพี่เลี้ยงให้ดูแลลูกแทน
เพราะคุณแม่ต้องไปทํางานแต่เช้า ตอนดึกกลับมาจากงานลูกก็หลับไปแล้ว
เวลาลูกอย ากได้อะไรจะซื้อให้ทันที เพื่อชดเชยที่ไม่มีเวลาให้เขา แต่ตอนนี้
คุณแม่อยู่บ้านทุ กวันเพื่อดูแลลูก แต่เขากลับไม่สนใจคุณแม่เลย”
ครอบครัวที่ 2
เล่าว่า “ลูกวัยรุ่นอายุ 12 ปี คุณแม่และคุณพ่อทํางานอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนลูกอยู่
ต่างจังหวัดกับคุณปู่คุณย่ าตั้งแต่เล็ก ปีนี้ เขาขึ้น ม.1 คุณแม่พาเขากลับมาอยู่ด้วย
เพื่อที่ลูกจะได้เรียนที่กรุงเทพฯ เมื่อเขามาอยู่ที่บ้านกับเรา เขาเล่นแต่เกม
ในโทรศัพท์ทั้งวัน ห้ามอะไรก็ไม่ฟัง ไม่เคยช่วยงานบ้าน ไม่สนใจพ่อแม่เลย
เหมือนพ่อแม่ไม่มีตัวตนในสายตาลูก ไปโรงเรียนคุณครูที่โรงเรียนก็รายงานมา
ว่าลูกไม่ส่งงาน และ โดดเรียนเป็นประจํา”
สาเหตุของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับลูกวัยรุ่นของทั้งสองครอบครัวนี้คือ
“การไม่มีเวลาคุณภาพให้ลูกเมื่อตอนที่เขายังเป็นเ ด็ก” แม้คุณแม่ของทั้งสอง
ครอบครัวจะพย าย ามแก้ไขด้วยการมอบเวลาให้เขาในวันนี้ ลูกก็อาจจะไม่ได้
ต้องการมากเท่ากับตอนที่เขายังเป็นเด็ ก ๆ จึงทําให้การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดของ
พ่อแม่ที่มีต่อลูกคือการลงทุน เรื่อง “เวลา” ในช่วง 6 ปีแรกของชีวิตลูก เพราะเ ด็ก
ต้องการความสนใจ และการดูแลอย่ างใกล้ชิดจากพ่อแม่ สําหรับคุณพ่อคุณแม่ที่
ย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ในอดีตไม่ได้แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าปัจจุบันเราจะ
กลับมาแก้ไขเพื่อลูกไม่ได้
ขอบคุณที่มา : create-readingth