1. ถึงทุ กอย่ างที่มีอยู่ ไม่แพง ไม่หรู แต่ก็ครบครัน ที่พักก็มี, การเดินทางก็ไม่ลำบากมาก, การกินอยู่ก็พออิ่มพอกิน,
ได้เข้าสังคมตามโอกาสที่ควร, ได้เพื่อนร่วมงานที่ดี, มีวันหยุดที่สบาย, เ จ็ บ ป่ ว ยก็มีค่ารั ก ษ า ฯลฯ
สิ่งรอบตัวเรามีครบขนาดนี้ ก็ไม่จำเป็นแล้วที่จะต้องดิ้นรนให้เกินฐานะ พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่นี่แหละความสุขที่แท้จริง
2. โ ชคดีแค่ไหนแล้วที่มีงาน มีเงิ น ถ้าคุณกำลังท้อใจ รู้สึกว่างานที่ทำอยู่ทำไมด้อยมูลค่า ด้อยตำแหน่ง
ลองมองในมุมกลับกันว่า ‘ดีแค่ไหนแล้วที่มีงานทำ’ บางคนไม่มีโอกาสที่ดีเท่าเราด้วยซ้ำไป
พวกเขาต้องดิ้นรนหนักกว่าบ้ าง หรือไม่ก็ยอมแพ้ ไม่หางานซะเลยก็มี แต่อย่ าใช้ปลอบใจตัวเอง
ในวันที่คุณรู้สึกว่างานที่ทำอยู่มันทำให้คุณรู้สึกไม่โอเคมาก ๆ เช่น สวัสดิการห่ วยมาก,
มีการทุจริตในองค์กรจริง, ยิ่งอยู่ยิ่งถูกเอาเปรียบจริง ลาออกเลยดีกว่า
อย่ าปลอบใจตัวเองถ้ารู้สึกท ร ม า นมาหลายหนแล้ว
3. สร้างมิตรภาพกับคนรอบตัวเข้าไว้ ความสัมพันธ์อันดีต่อเพื่อนบ้ าน, เพื่อนร่วมงาน, ใครก็ตามที่อยู่ใกล้ ๆ เรา
นอกจากเราจะได้รับการแ บ่ ง ปั นของกินของใช้, อ า ห า ร, โอกาสดี ๆ อันอื่น ๆ ในย ามที่เราเดื อดร้อนขึ้นมา
เช่น จู่ ๆ ก็ไม่สบายหนัก พวกเขาอาจช่วยเราผ่ อ นหนักเป็นเบา คอยเป็นหูเป็นตาช่วยดูแลเรา
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าความสัมพันธ์มันมาพร้อมกับผลประโยชน์
แต่เราก็เลือกได้นะว่าจะบาลานซ์ให้เรื่องไหนมาเป็นอันดับแรก ถ้าคุณเลือกผลประโยชน์นำหน้า
คุณก็จะไม่ได้รับความจริงใจเลย เลือกสิ่งไหน ได้สิ่งนั้นไงล่ะ (เชื่อเถอะว่าร วยเพื่อน มันดี๊ดีกว่าร วยเงิ นท องซะอีกนะ)
4. ถึงจะออกนอกห้องบ่อย ๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีเงิ นเก็บเลย จริงอยู่ว่าก้าวเท้าออกไปนอกบ้ านหรือนอกห้อง
ก็เท่ากับว่าเรายินยอมที่จะจ่ายตังค์แล้ว อย่ าเหนียวกับตัวเองไปหน่อยเลย
ถ้าวันไหนไม่มีตังค์หรือเงิ นช็อต ไม่จำเป็นต้องออกไปใช้เงิ นมากก็ได้ ลองหากิจกร รมง่าย ๆ
เช่น ออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะ, ออกไปเดินเล่นที่ห้าง, ออกไปปั่นจักรย านเที่ยวเล่น
อย่ าติ ดนิสัยอยู่ในห้องบ่อย ๆ เราควรแอคทีฟตัวเองบ้ าง ร่า ง ก า ยจิตใจจะได้แจ่มใส
ตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่เ จ็ บ ป่ ว ยง่าย ไม่รู้สึกน่าเบื่อหรือหดหู่ง่ายเหมือนขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง
5. ควรซื้ อของด้วยเงิ นสด ไม่ใช้ระบบผ่ อ นหรือบั ต ร เ ค ร ดิ ต อย ากได้อะไรพย าย ามเก็บเ งินให้ครบ
แล้วค่อยไปซื้ อ อย่ าติ ดนิสัยซื้ อมาก่อน ผ่ อ นทีหลัง หรือจ่ายด้วยบั ต ร เ ค ร ดิ ต ซึ่งเป็นการนำเอาเ งินในอนาคตมาใช้
(ไม่เหมาะกับคนเงิ นเดือนหลักพันเป็นอย่ างยิ่ง เพราะสเตทเม้นท์ไม่ปลอดภัยพอสำหรับการหมุนเงิ น)
การก่อห นี้โดยไม่จำเป็น ข าดเหตุผล อาจทำให้เราไม่มีเงิ นเก็บ เงิ นข าดมือ ติ ดพันกับการกู้ยืมเป็นทอด ๆ ไม่รู้จบ
6. กระจายเงิ นเก็บ/ต่อยอดเงิ นเก็บ เงิ นจากการออมเป็นรายวัน/รายสัปดาห์/รายเดือน ไม่ควรมีในบัญชีเดียวหรือแหล่งเดียว
ควรกระจายแหล่งเงิ นฝาก เช่น ฝากไว้เป็นบัญชีกลางร่วมกับแฟน, ฝากไว้ที่บัญชีของลูกน้อย, ฝากไว้ที่บัญชีของพ่อแม่
เพื่อป้องกันการใช้เ งินแบบไม่มีลิมิตหรือกันเงิ นไว้สำหรับเหตุฉุ ก เ ฉิ นได้หลายที่
และหากมีเงิ นเก็บมากพอสัก 5,000-10,000 บาท ลองต่อยอดเป็นหุ้น, ธุรกิจเล็ก ๆ, ท องคำ,
เงิ นฝากประจำด อ ก เ บี้ ยสูง เงิ นคุณจะได้เติบโตมากขึ้น ไม่เป็นยอดนิ่ง ๆ แค่บัญชีเดียวแต่เ สียวไส้ ใช้หมดเมื่อไหร่ เจ๊งเมื่อนั้น
ขอบคุณที่มา : jingjai999