1. ทำสิ่งที่ควรทำมีหน้าที่อะไร รับผิดชอบอะไรอยู่ก็ทำให้ดีที่สุด อย่ าปล่อยตัวปล่อยใจให้เลื่อนลอย
อย่ าทิ้งหน้าที่ของตนเอง ยิ่งทุ กข์มากเท่าไหร่ ยิ่งต้องตั้งใจทำงานให้ดี ขยันสุด ๆ พัฒนาตัวเองสุด ๆ
เอาจิตใจจดจ่ออยู่กับการงานของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2. ทำตนให้มีแสงสว่างในตนเองเมตตาให้มาก ๆ เห็นแ ก่ตัวให้น้อย ๆ คิดถึงคนอื่นมาก ๆ คิดถึงตัวเองน้อย ๆ
เมื่อคิดถึงคนอื่นมาก เราจะโกรธเกลียดน้อยลง อภั ยได้ง่ายขึ้น เข้าใจเหตุผลของผู้อื่นง่ายขึ้น
จิตใจก็จะเบา และมีความสุขกว่าเดิม
3. พูดแต่สิ่งดี ๆ อย่ าพูดสิ่งทำลายความหวัง อย่ าทำให้ตัวเองรู้สึกหดหู่ อย่ าคิดว่าตัวเองไม่มีค่า
อย่ าโ ทษคนอื่น อย่ าโ ทษตัวเอง อย่ าโ ทษฟ้าโ ทษดิน แต่ให้ยอมรับว่าสิ่งนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว
ทำความเข้าใจ ให้อภั ย และวางแผนชีวิตเพื่อจะก้าวเดินต่อไป
4. ฝึกมองด้านดี ๆ ของชีวิตเมื่อความทุ กข์มาเยือน เราก็ต้องสร้างแสงสว่างให้เกิดขึ้น
จงมองโลกให้มันสว่างไสว มองข้อดีของตนเอง มองข้อดีผู้อื่น พูดให้กำลังใจคนอื่น
พูดให้กำลังใจตนเอง ดีใจกับคนอื่น ใจดีกับตนเอง มองอะไรในด้านที่บวก
เก็บเกี่ยวกำลังใจที่ผ่ านเข้ามา และสนุกกับชีวิต ทำสุ ขภาพจิตให้เบิกบานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
5. ท่องไว้เลยว่า “ไม่มีอะไรที่จะอยู่กับเราไปตลอด” ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งของ ชื่อเ สียง
หรืออำนาจวาสนา เราเป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ ที่เกิดมา เป็นแค่คนที่อยู่บนโลกเพียงชั่ วคราว
ขอบคุณที่มา : smileroyyim