เชื่อว่า หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยิน ได้เห็นประโยคนี้กันมาแล้วว่า “ควรมีรถ มีบ้าน ก่อนอายุ 30”
แล้วคุณผู้อ่ านคิดอย่ างไรกับประโยคนี้ครับทำไมหลายคนชอบตั้งคำถามเรื่องเงิ น ๆ ท อง ๆ
ตอนอายุขึ้นเลข 3 แน่นอนว่าเมื่ออายุเข้าเลข 3 ก็ถือว่าเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว หลาย ๆ คนเริ่ม
ที่จะต้องสร้างครอบครัว และยังต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูก รวมทั้งค่าใช้จ่ายสุ ขภาพตามมา
ดังนั้น หลาย ๆ คนจึงเริ่มที่จะคิดเรื่องเงิ น ๆ ท อง ๆ อย่ างจริงจังการมีบ้าน มีรถ ต้องมีก่อนอายุ
30 จริง ๆ หรือไม่? คำถามนี้.. ผมว่าไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ทุ กคนต้องมีครับ ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของแต่ละคน
รถและบ้าน เป็นอีกความฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะเมื่อเราเริ่มมีรายได้
แล้ว ก็ย่อมอย ากนำไปใช้จ่ายและสร้างชีวิตในแบบฉบับของตัวเอง แต่การซื้อรถหรือบ้านนั้น
เป็นปัญหาโลกแต กไม่ใช่น้อย เนื่องจากเป็นของที่มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเงิ นเดือนและ
เงิ นเก็บที่มีอยู่ และแน่นอนว่าอาจไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิ นสดที่มีอยู่ แต่ต้องใช้การกู้เงิ นและ
ผ่อนชำระกับธนาคาร เราจึงต้องสำรวจเป้าหมาย และความพร้อมของตัวเราให้ดีเสี ยก่อน
เพราะการตัดสินใจซื้อรถหรือบ้านนั้น อาจส่งผลกับชีวิตเราได้ ทั้งในแง่ลบและบวก “รถ” หลาย ๆ
คนบอกว่า หากมีเงิ นควรซื้อบ้านก่อน แล้วค่อยซื้อรถ เนื่องจากรถเป็นสิ่งที่มูลค่า “ลด” ลงเรื่อย ๆ
หากซื้อมาแล้วนำมาขายต่อราคาจะลดลงอย่ างเห็นได้ชัด เลยมักได้ยินคำว่าซื้อรถไปทำไม
ถ้ายังไม่มีบ้าน ซึ่งการซื้อรถของหลาย ๆ คน ไม่ได้ซื้อไว้เพื่อการเดินทางเพียง หรือเพื่อมาอ วดว่า
ตัวเองมีรถใช้เพียงอย่ างเดียว บางคนซื้อรถ อาจทำให้มีรายได้เพิ่มเติมเสี ยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น
การขับรถออกไปพบลูกค้า การใช้รถเพื่อบรรทุ กสิ่งของไปขายตามที่ต่าง ๆ และบางคนก็นำรถไปขับ
เป็นรถสาธารณะ เพื่อเป็นการหารายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง จึงถือได้ว่า “รถ” สามารถ “เพิ่ม” รายได้ให้
กับเจ้าของรถนั่นเอง แต่หากว่าคุณไม่ได้ใช้รถเพื่อการหารายได้เพิ่มแล้วนั้น ไม่ควรจะซื้อจริง ๆ หรอ
ไม่เลยครับ ขึ้นอยู่กับความต้องการ และความสามารถในการซื้อของแต่ละคน บางคนมีครอบครัว มีลูก
ที่อย ากพาไปเที่ยว พาไปโรงเรียน คงไม่อย ากให้ลูกซ้อนมอเตอร์ไซค์กัน ถูกไหมครับ เพราะฉะนั้น
การซื้อรถไม่ว่ายังไงก็ดูที่ความต้องการของตัวเอง พร้อมกับประเมินความสามารถของตัวเองในการซื้อ
เพียงแค่ต้องพึงระวั งไม่ซื้ออะไรที่มันเกินตัวจนเกินไป คำนึงถึงความจำเป็นในการใช้งาน และความ
สามารถในการจ่ายเ งินเป็นพอครับ การซื้อแล้วไม่เดื อดร้อนตัวเอง ไม่เดื อดร้อนคนอื่นก็เพียงพอแล้ว
“บ้าน” ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับทุ กคน ใช่ว่าทุ กคนควรซื้อบ้านก่อนอายุ 30 แล้วจะแสดงถึงความมั่นคงใด ๆ
บางคนมีบ้านอยู่ อยู่แล้วกับคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งท่านก็อายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้อย ากซื้อบ้านใหม่เป็นของตัวเอง
เพราะอย ากอยู่กับท่านดูแลท่านไป และการซื้อบ้าน คือ การสร้างห นี้ก้อนใหญ่ ระยะย าว พร้อมด อกเบี้ยที่
เมื่อคำนวณแล้วก็เป็นยอดที่เกือบจะเท่ากับราคาบ้านเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นการซื้อบ้านก็ขึ้นอยู่กับความ
ต้องการของแต่ละบุคคลนั่นเองครับ สำหรับความคิดเห็นของผม อายุ 30 ไม่ได้มีความจำเป็นต้องมีรถ
มีบ้าน ขอเพียงแค่มีเงิ นที่จะใช้จ่ายของตัวเอง ไม่เดื อดร้อนคนอื่น ดูแลคนที่ตัวเองรักได้ ก็เพียงพอแล้วครับ
สิ่งอื่น ๆ หากยังไม่มีหรือจำเป็นต้องมีก็ค่อย ๆ วางแผนเก็บเงิ นกันไป แต่คงไม่ใช่บรรทัดฐานที่ทุ กคนต้องมี
นั่นเอง เพราะฉะนั้น..สิ่งแรกที่ผมคิดว่าทุ กคนควรทำก่อนก็คือ การวางแผนการเงิ นของตัวเอง วิเค ราะห์รายได้
ของตัวเองว่าเพียงพอแล้วหรือยัง หากยังก็มาหาวิ ธีที่จะเพิ่มรายได้ของตัวเองกัน ไม่ว่าจะเป็นการออมเ งิน
แบบฝากธนาคาร การเล่นหุ้น การซื้อประกัน การลงทุนในกองทุนต่าง ๆ การค้าขาย หรืออื่น ๆ อีกมากมาย
ตามแต่ที่ตัวเองสนใจ และมีความสามารถและมาวิเค ราะห์เรื่องค่าใช้จ่ายว่า ค่าใช้จ่ายไหนที่จำเป็นต้องมีใน
แต่ละเดือน ค่าใช้จ่ายไหนไม่จำเป็น และวางแผนใช้เงิ นไม่ให้เกินตัว หรือไม่ให้เกินรายได้ที่ตัวเองสามารถ
หามาได้ เพียงเท่านั้นก็พอแล้ว การตัดสินใจในการซื้อรถหรือบ้านนั้น จะต้องเริ่มจากการสำรวจสถานะทาง
การเ งินของตัวเองเป็นอันดับแรกว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระแค่ไหน ซึ่งหากพบว่า เรามีความพร้อม
ในการชำระเงิ นกู้ในระยะย าวแล้ว ก็ต้องลองพิจารณาดูความจำเป็นในการเลือกซื้อรถหรือบ้าน โดยตั้งคำถามว่า
สิ่งใดที่เรายังไม่มี และมีความจำเป็นต้องใช้มากกว่า สิ่งใดที่ซื้อแล้วจะได้ประโยชน์ในการใช้สอยหรือได้ประโยชน์
ทางการเงิ นมากกว่าก็จะทำให้เราตัดสินใจได้ว่าจะซื้อรถหรือบ้านก่อนกันนั่นเอง บ้าน หรือรถ หากอย ากซื้อ
ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็สามารถซื้อได้ เอาที่ตัวเองพร้อม และสามารถจ่ายไหว ไม่จำเป็นต้องมาบีบตัวเองว่า
ต้องมีก่อนอายุ 30 ไม่งั้นจะอาย คนอื่นเขากันเลย
ขอบคุณที่มา : create-readingth