ข้อที่ 1 เห็นคุณค่าของเ งิน : ซึ่งแน่นอนว่าความจนอาจแปลได้ว่าคุณมีเงิ นไม่มากพอหรือมีเ งินน้อย
เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องปกติและควรจะเป็นที่คนจนจะต้องเห็นคุณค่าของเงิ น
ซึ่งตรงกันข้ามกับคนที่เกิดมาร วยอยู่แล้วหรือเกิดในครอบครัวที่ตามใจคนเหล่านี้
มักจะไม่ค่อยเห็นคุณค่าของเงิ นสักเท่าไหร่ ทำให้เ งินที่มีอยู่บางครั้งอาจหมดได้ เช่น
การเอาเงิ นไปล ง ทุ นอะไรง่าย ๆ โดยไม่ได้ศึกษารายละเอียดให้มากพอ จึงส่งผลให้เสี ยเงิ นไปโดยใช่เหตุ
ดังนั้น ถ้าหากคนจนสามารถมีโอกาสได้ทำอะไรสักอย่ างแล้วมันถูกจังหวะ คนกลุ่มนี้ก็จะค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป
เพราะรู้ว่าเ งินเป็นสิ่งที่หาย ากและโอกาสที่เขาจะร วยได้จึงมีอยู่มาก
ข้อที่ 2 มีความอดทน : โดยส่วนใหญ่แล้วให้คุณลองสังเกตว่าคนจนมักจะมีความอดทนมากกว่าคนร วย
สาเหตุเป็นเพราะว่าพวกเขาได้ประสบพบเจอความย ากลำบากมาอยู่แล้วจึงทำให้
ถ้าหากเขาอย ากจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่ างและระหว่างทางเจออุปสรรค
พวกเขาจึงสามารถที่จะอดทนได้มากกว่าคนที่ไม่เคยลำบากมาก่อน
และมีประสิทธิภาพในการที่จะทำอะไรอย่ างต่อเนื่องโดยไม่ทิ้งความสำเร็จไว้กลางขัน อีกด้วย
ข้อที่ 3 มีโอกาสที่จะร วยได้มากกว่าคนที่ร วยปกติ : หากคุณลองเปรียบเทียบประชากรที่ร วยและจนเฉพาะในประเทศไทย
คุณคงมองเห็นได้ชัดว่าคนที่ร วยอยู่แล้วอาจมีแค่ 5-10% ของประชากรในประเทศไทยทั้งหมด
ส่วนที่เหลือก็จะอาจจะเป็นคนชั้นกลางและคนจน จึงทำให้คนที่จนอยู่แล้วสามารถ “เข้าใจหัวอก”
คนที่อยู่ในระดับเดียวกัน และเข้าถึงได้ง่ายแล้วคุณลองคิดดูนะครับ ว่าคนจนและคนระดับกลางมีจำนวนที่มากกว่าคนร วยกี่เท่า
ถึงแม้บางครั้งคุณอาจจะเริ่มทำธุรกิจที่มีกำไรไม่มาก แต่คนสามารเข้าถึงและซื้ อสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
ดังนั้น คนจนจึงสามารถมีโอกาสที่จะร วยง่ายมากกว่าคนที่ร วยอยู่แล้วซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่แปลกเลย
เพราะแรงจูงใจมันมีมากกว่าและคงไม่มีใครอย ากจะลำบากไปตลอดชีวิต
ข้อที่ 4 คนจนมักจะรับฟังคนอื่นมากกว่า : ตามหลักแล้วคนที่จนบางคนมักจะคิดว่าตัวเองมีความรู้ไม่มากพอ
เลยทำให้เป็นคนที่สามารถเปิดรับอะไรได้ง่ายกว่าคนที่มีฐานะ
หากมีใครที่เข้ามาให้ความรู้ หรือประสบการณ์ พวกเขาก็มักจะเป็นคนที่รับฟังได้ดีกว่า
เมื่อพวกเขามีการรับฟังความคิดเห็น หรือข้อแนะนำจากคนอื่น ๆ
สิ่งที่ได้รับก็คือ ความรู้ ข้อมูลเพื่อที่จะนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
ขอบคุณที่มา : jingjai999