1. ทำงานเพื่อให้ได้เงิ นค่าจ้างเท่านั้น
คนจนมักจะทำงานเพื่อให้ได้เงิ นค่าจ้างวันต่อวัน โดยไม่คิดว่าจะทำอย่ างไรให้ได้เงิ นมากขึ้น หรือทำอย่ างไรจะมีธุรกิจเป็นของตนเอง
เพราะหากมีธุรกิจเป็นของตนเอง เงิ นที่ได้รับจะต้องมากกว่าการทำงานเป็นลูกจ้างอย่ างแน่นอน
ส่วนใหญ่แล้วคนจนจะไม่กล้า เ สี่ ยง และมักหารายได้จากการใช้แรงงานของตนเอง เพื่อให้อุ่นใจว่าจะมีรายได้แน่นอนทุ กวัน
2. สนใจ แต่ว่าจะนำเงิ นที่มีไปใช้อย่ างไร
คนจนจะสนใจในการนำเงิ นไปใช้ หรือมองหาหนทางนำเ งินไปสร้างความสุขให้กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยวจนเกินความจำเป็น การซื้อของแบรนด์เนม การกินหรูอยู่สบาย
จะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีมูลค่าลดลงและเป็นตัวการที่ทำให้เงิ นเก็บลดน้อยลง
3. มองโลกในแง่ลบ
คนจนส่วนมากมักมองโลกในแง่ลบ ยกตัวอย่ างเช่น คนจนมักคิดว่าทำอย่ างไรก็ไม่ร วยขึ้นมาได้ มีชีวิตแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว
แต่ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงเขาเองก็มีศักยภาพเพียงพอในการทำสิ่งต่าง ๆให้ดีขึ้นมาได้ แต่คนจนเหล่านั้นมักติ ดกับดั กทางความคิด
มองทุ กอย่ างเป็น วิ ก ฤ ติ ไม่พย าย ามหาโอกาสให้กับตนเอง เขาจึงไม่สามารถหลุดพ้นจากความย ากจนได้นั่นเอง
4. คิดวันต่อวัน
คนจนมักจะคิดเอาตัวรอดไปแค่วันต่อวัน เช่น ทำงานวันนี้ได้เงิ นมาก็ถือว่าหมดภาระ คิดเพียงแค่ว่าวันนี้มีแต่พรุ่งนี้จะเป็นอย่ างไรก็ช่าง ไม่ได้สนใจ
ถือว่าพรุ่งนี้เป็นเรื่องของอนาคตที่ต้องคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จะเห็นได้ว่าคนจนไม่มีการวางแผนสิ่งใดเลย
ไม่ว่าจะเป็นการออมเงิ นสำหรับวัยเกษียณ การออมเงิ นสำหรับค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น
5. สนใจ แต่เรื่องของคนอื่น
คนจนมักจะสนใจ แต่เรื่องของคนอื่น การซุบซิบนินทา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ก่อประโยชน์ใด ๆ ให้กับรายได้ของพวกเขาเลย
การสนใจเรื่องของผู้อื่นมากเกินไปจะทำให้เกิดความรู้สึกอิ จฉา
เปรียบเทียบตนเอง จนในที่สุดก็กลายเป็นโ ทษโ ชคชะตา ต่างกับคนร วยที่มักจะสนใจกับเรื่องของตนเอง
คิดวิ ธีการนำเ งินไปต่อยอดและคิดว่าจะนำเงิ นที่มีไปลงทุนในด้านใด ลงทุนอย่ างไรจึงจะร่ำร วยมากขึ้นกว่าเดิม
ขอบคุณที่มา : sabailey