1. ยอมรับให้เรายอมรับกับใจของเราไปตามจริงว่า แท้จริงลึกๆ เราจะโกรธ
ยังรู้สึกไม่ดีกับเขาอยู่ ให้รู้ว่า นี่คืออาการปกติของคนเรา ไม่ใช่เรื่องแปลก
ทุ กคนสามารถเป็นแบบนี้มากบ้างน้อยบ้าง เราไม่ได้เป็นอยู่คนเดียว
และอย่ าไปถามหาเหตุผล ขอให้จำไว้ว่า เมื่อคิดจะให้อภั ยใครแล้ว ก็อย่ าไปถามหาเหตุผลถูกผิด
2. มองความดีของผู้ที่เราโกรธมองในมุมที่เป็นข้อดีของเขา
มองอย่ างเปิดใจ จนสามารถยอมรับ และชื่นชมในความดีของเข าได้
3. ที่อโ หสิกร รมไม่ได้ เพราะจิตใจยังไ ม่ปล่อยวางเรื่องที่เกิ ดขึ้นอย่ างแท้จริง
พูดง่ายๆว่ายังนึ กถึงสิ่งที่ผ่ านไปแล้วมาคิดปรุ งซ้ำๆ อภั ยวันนี้พรุ่งนี้คิดอีกก็โกรธอีก
พอโกรธแล้วนึกได้ ก็ให้อภั ยแล้วก็โกรธอีกเพราะแท้จริงแล้วใจยังยึดมั่นถือมั่นอยู่นั่นเอง
4. ลองทำดีกับผู้อื่นเหมือนทำดีกับตนเอง
เก็บของดีๆ ไว้ให้คนอื่นกิน ของไม่ดีเก็บไว้กินเอง เข้าร้านหนังสือ ซื้อเล่มเก่า ๆ มาอ่ าน
เล่มดี ๆ ปล่ อยไว้ที่ร้านให้คนอื่นซื้อ ทำอะไรอย่ าเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเอง แต่เก็บสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้คนอื่น
5. มองเขามองผู้อื่นเป็นเพื่อนทุ กข์ เกิด แ ก่ เจ็ บต า ย
มองทุ กคนด้วยความรัก มองว่า เขาก็มี เ ลื อ ดมีเนื้ อมีเจ็ บช้ำน้ำใจ ดีใจเสี ยใจเหมือนเรา
6. เมื่อโกรธลองฝึกรู้ตัวไม่จำเป็นต้องหายโกรธทันที
แต่ให้รู้จักหยุดนิ่ง แล้วมองมาที่ใจตนเองมองให้เห็นความชั่ วร้ ายน่าเกลียดของตนเอง
ปล่อยวาง แล้วค่อยๆ แ ก้ไขปรับปรุง แต่อย่ าไปรู้สึกอึ ดอั ดกับความไม่ดีของตนเอง ให้เข้าใจว่า
ทุ กคนมีข้อดีข้อเสี ยและเรากำลังฝึกมองตนเองอยู่โดยเฉพาะเวลาโกรธ
ขอให้ต ระหนักว่า เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการมองตนเอง
7. ฝึกเมตตาต่อผู้อื่นคนสัตว์ สิ่งต่าง ๆ รอบตัว
พย าย ามมองโลกนี้ด้วยใจที่อ่อนโยน อยู่กับโ ล กนี้
ทำความเข้าใจกับโลกนี้เหมือนโลกนี้เป็นด อกไม้ที่บอบบางควรค่าแ ก่การทะนุถนอม
ขอบคุณที่มา : long-oie