วิ ธีที่ 1 ขีดเส้น “แบ่งเขต” ของคุณให้ชัดเจน
ถามตัวเองว่า “คุณชอบ หรือ ไม่ชอบพฤติกร รมอะไรบ้าง” จากนั้นลองไล่เรียงดูว่า
ทั้งหมดนั้นคุณพอจะอดทนกับสิ่งใดได้มากที่สุดไปจนถึงน้อยที่สุด (น้อยที่สุด คือ สิ่งที่คุณไม่สามารถอดทนกับมันได้เลย)
เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า มีคนมาทำให้ระดับความอดทนของคุณต้องลดน้อยลงเรื่อย ๆ จนใกล้จะหงุดหงิด
แนะนำว่า ให้ปลีกตัวออกห่างจากสภาพแวดล้อมนั้น ๆ เช่น ทำทีออกมารับโทรศัพท์ มีธุระด่วน หรือถ้าใจกล้า
ขึ้นมาอีกนิดก็แสดงความต้องการของคุณออกไป
เช่น การพูดเปรย ๆ หรือ มีทีท่าบอกใบ้กลาย ๆ ว่า คุณไม่ปลื้มพฤติกร รมกับแบบนี้นัก น่าจะเป็นทางออกที่ดี
วิ ธีที่ 2 หนักแน่นในสิ่งที่คุณเป็น
ถ้าชิ่งหนีก็แล้ว เตื อนก็แล้ว ทำทุ กอย่ างจนหมดแล้ว แต่นักล้ำเส้นก็ยัง พ ย า ย า ม รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ชีวิตของคุณอีก
หากไม่ อ ย า กได้ชื่อว่า จอมอึด คราวนี้คงถึงคราวต้องจัดหนัก ขออนุญาตเอาคำว่า “เกรงใจ” เก็บไว้ก่อน แล้วหันมา “พูดตรง ๆ ด้วยความสุภาพ”
เพื่อแสดงความชัดเจนไปเลยว่า “คุณชอบ หรือ ไม่ชอบสิ่งที่เขาทำ”
ส่วนมากถ้าเจอการตอบโต้แบบนี้กลับไป นักล้ำเส้นกว่าครึ่งจะเริ่มรู้ตัว
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยส่วนตัวของเขาแล้วว่าว่า จะขอโ ทษคุณแล้วถอยกลับ หรือยังดึงดันที่จะก้าวล้ำเข้ามาอีก
วิ ธีที่ 3 ใช้ความนิ่งสงบ … สยบทุ กสรรพสิ่ง
ถ้านักล้ำเส้นจอมอึดยังไม่ละความ พ ย า ย า ม คราวนี้ลองมาคิดดูว่า ปกติธรรมชาติของมนุษย์ย่อมต้องการ “การยอมรับ” จากผู้อื่น
เช่น ถ้าเป็นการพูดจาก็ต้องมีบทสนทนาต่อเนื่อง ใครยิ้มให้ก็ต้องยิ้มตอบ แต่ถ้าหาก อีกฝ่ายเกิดนิ่งเฉยขึ้นมา ถามคำตอบคำ หรือ มีทีท่าเย็นชา
ไม่ใส่ใจทำเสมือนว่าคนที่เข้ามาคุยเป็นอากาศอันว่างเปล่า ไร้ตัวตน … อะไรจะเกิดขึ้น
รับรอง ไม่ว่าใครถ้าได้เจอวิ ธีนี้แล้ว หากไม่มีความอดทนสูงจนเกินพิกัติ
ในไม่ช้าก็คงเลิกราพฤติกร รมล้ำเส้นไปเอง แถมยังต้องแบกความอาย (อ ย่ า ง แ ร ง) กลับไปอีกด้วย
วิ ธีที่ 4 คุณเท่านั้นที่ “เปลี่ยน” ตัวเองได้
ถ้าทำตาม 3 วิ ธีมาแล้ว ยังไม่ได้ผล ขั้นต่อไป คงต้องหยิบยกกฎสากลที่ว่า “ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงใครได้” มาใช้
คุณคงต้องทำใจเสี ยเถอะ ถ้าเปลี่ยนแปลงนักล้ำเส้นให้ถอยหลังกลับไปยังพื้นที่ของตนเองไม่ได้
ก็ควรหันมาเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองแทน คิดเสี ยว่า ที่เขาคอยเกาะติ ดเราคงเป็นเพราะเขาใส่ใจเราจริง ๆ ที่เขาคอยโทรหาเราคงเพราะเขาเป็นห่วง
ที่เขาคอยช่วยเหลือทั้งที่เราไม่ได้ขอร้องต้องการ คงเพราะเขาห่วงใยและหวังดีกับเรา
วิ ธีนี้ช่วงแรก ๆ อาจทำใจ ย า ก สักนิด แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าทำได้ชีวิตคุณจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ
วิ ธีที่ 5 ตามด้วย “อภั ยและเมตตา”
ถ้านักล้ำเส้นเริ่มรู้ตัวและตัดสินใจล่าถอยไป ก็นับว่าเป็นข่าวดี คราวนี้คุณเองก็ต้อง “ให้อภั ยเขาแบบเต็มหัวใจ”
แม้จะเคยโกรธ รำคาญหรือไม่พอใจเพียงใดก็ตาม เพื่อความสบายใจของคุณเอง
แต่หากเขายังคงเดินหน้าก้าวก่ายกับชีวิตของคุณต่อไปไม่ลดละ จะทำอย่ างไรก็เปล่าประโยชน์
ขอให้ลอง “ให้ความเมตตา” กับเขาแทน เพราะแท้ที่จริงแล้ว นักล้ำเส้นอาจไม่ใช่ ค น เ ล ว ร้ า ย
เขาอาจมีเหตุผลของเขาที่ต้องทำอย่ างนั้น เพียงแต่ว่า “ความต้องการของคุณกับเขาอาจไม่ตรงกัน” เท่านั้นเอง
แนะนำให้ลองหันมาเอาใจใส่ ฟังสิ่งที่เขาต้องการพูดบ้าง แสดงการยอมรับในตัวเขา เพราะบางทีการได้รับความสนใจกลับมา
อาจจะทำให้เขารู้สึก “ดี” กับตัวเองมากยิ่งขึ้น จนไม่จำเป็นต้องแสดงพฤติกร รมล้ำเส้นเพื่อดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างในแบบผิด ๆ อีกต่อไป
ขอบคุณที่มา : sabailey