1. คนร วย ชอบตั้งคำถามที่เป็นบวก และสร้างกำลังใจ
คนจนและคนชั้นกลาง ชอบตั้งคำถามที่เป็นลบ และ บั่ น ท อ น กำลังใจคนร วยมักจะคิดว่า
ฉันจะสร้างรายได้เป็นเท่าตัวในปีนี้ได้อย่ างไร ? ใน วิ ก ฤ ต ครั้งนี้มีโอกาสอะไรซ่อนอยู่บ้าง ? ฯลฯ
ในขณะที่คนจนและคนชั้นกลางมักจะคิดว่า ทำไมเรื่อง แ ย่ ๆ
ถึงต้องมาเกิดกับฉันด้วย, โอกาสของคนเราไม่เท่ากัน เป็นเพราะฉันเกิดมาจน ฯลฯ
2. คนร วย เน้นการเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่ง
คนจนและคนชั้นกลาง เน้นการเพิ่มของเ งินเดือนเป้าหมายของคนร วยนั้นอยู่ที่ว่า
ตนเองมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดยมองที่ภาพรวม
ดังนั้น ถ้าเขามีหุ้นอยู่ การที่หุ้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เขาก็มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น
โดยที่เขาไม่ต้องเสี ยภาษีแต่คนชั้นกลาง พ ย า ย า ม ทำงานเพื่อให้มีเงิ นเดือนสูงขึ้น
แต่เขาอาจจะลืมไปว่า เขาจะต้องเสี ยภาษีเพิ่มขึ้นด้วย
3. คนร วย ยอมรับการเปลี่ยนแปลง
คนจนและคนชั้นกลาง ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงคนชั้นกลางรู้สึกว่า
การเปลี่ยนแปลงจะคุ กคามชีวิตความเป็นอยู่ที่ตนเองเคยชิน ในขณะที่คนร วยนั้นคิดว่า
การเปลี่ยนแปลงอาจนำมาซึ่งชีวิตที่ดีกว่าเขาคิดว่าในการเปลี่ยนแปลงนั้น
มักมีโอกาสที่เขาอาจจะคว้าไว้ได้เบื้องหลังนิสัยนี้อาจจะมาจากการที่คนร วยมีความมั่นใจ
สูงกว่าคนชั้นกลางที่มักกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ได้
4. คนร วย ทำงานเพื่อหากำไร
คนจนและคนชั้นกลาง ทำงานเพื่อจะได้ค่าจ้างคนร วยมองว่า นี่คือหนทางที่จะทำให้ร วยได้มากกว่า
แม้ว่าจะมีความ เ สี่ ย ง ในขณะที่คนชั้นกลางนั้นมักจะไม่กล้า เ สี่ ย ง
และอาจจะมีความคิดสร้างสรรค์น้อยกว่าจึงมุ่งไปที่การหางานที่มีรายได้แน่นอน
แต่รายได้จากการใช้แรงงานของตนเองนั้น มีน้อยคนที่จะร วยได้
5. คนร วยเชื่อว่า พวกเขาจะต้องใจบุญสุนทาน
คนจนและคนชั้นกลางคิดว่า พวกเขาไม่มีปัญญาที่จะทำบุญข้อนี้ผมคงไม่มีความเห็นอะไร
ส่วนหนึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละคนที่ไม่ค่อยบอกหรือรู้กัน
ยกเว้นกรณีที่เป็นการ บ ริ จ า ค ใหญ่ ๆ อย่ างกรณีของบั ฟ เ ฟตต์หรือบิ ล เ กตส์
6. คนร วย มีแหล่งรายได้หลากหลาย
คนจนและคนชั้นกลาง มีเพียงหนึ่งหรือสองแหล่งข้อนี้ก็เช่นกัน ผมเองไม่แน่ใจว่าคนร วย
มีรายได้จากหลายแหล่ง เพราะร วยแล้วจึงไปลงทุนในทรัพย์สินหลาย ๆ อย่ าง
หรือมีทรัพย์สินหลายอย่ างจึงทำให้ร วย แต่ที่ผมเห็นชัดเจนก็คือ คนชั้นกลางนั้น
มักไม่ลงทุนในทรัพย์สินที่มีความ เ สี่ ย ง ทำให้รายได้มักจะมาจากเงิ นเดือนเป็นหลัก
7. คนร วยพูดเกี่ยวกับเรื่องไอเดีย
คนชั้นกลางพูดเกี่ยวกับสิ่งของคนจนพูดถึงเรื่องของคนอื่นนี่ไม่ได้หมายความว่า
คนร วยไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องสิ่งของหรือคนอื่น แต่หมายถึงว่า คนร วยจะพูดถึงเรื่องของคนอื่น
น้อยกว่าคนจนและมักจะเป็นคนที่มีแนวความคิดดี ๆ หรือมีมุมมองต่าง ๆ
มากกว่าคนชั้นกลางและคนจนเบื้องหลังของนิสัยในเรื่องนี้คงอยู่ที่ว่า
คนร วยนั้นมักจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนจน ซึ่งมักจะชอบ “ซุบซิบนินทา” เป็นนิจสิน
ในขณะที่คนชั้นกลางอาจจะเน้นการทำงานประจำ ชอบพูดถึงเรื่องรถยนต์ ดนตรี การพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น
8. คนร วยกล้ารับความ เ สี่ ย ง (ที่ได้มีการพิจารณาและไตร่ตรองดีแล้ว)
คนจนและคนชั้นกลาง กลัวที่จะรับความ เ สี่ ย งนี่เป็นนิสัยที่เป็นจุดอ่อนมากที่สุด
ของคนจนและคนชั้นกลาง ในความเห็นของผม คนที่ไม่ยอมรับความ เ สี่ ย งเลยนั้น
มักพลาดที่จะได้รับผลตอบแทนดี ๆ โดยสิ้นเชิง ส่วนคนที่กล้ารับความ เ สี่ ย ง
(ที่ได้มีการศึกษา-วิเค ราะห์ มาเป็นอย่ างดี) จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
โดยความ เ สี่ ย งจริง ๆ นั้นจะมีน้อยมาก ตัวอย่ างที่เห็นชัดเจนที่สุด ก็คือ คนชั้นกลาง
ส่วนใหญ่นั้นมักจะกลัวการลงทุนในหุ้น หรือตราส ารการเ งินที่มีความผันผวนของราคา
โดยที่เขาไม่ พ ย า ย า ม ศึกษาว่า ใน ร ะ ย ะ ย า ว แล้วมันอาจจะมีความคุ้มค่ากว่าการฝากเ งินในธนาคารมาก
ในอีกมุมหนึ่ง คนที่กล้ารับความ เ สี่ ย งอย่ าง “ บ้ า บิ่ น ” เช่นคนที่เล่นหุ้นวันต่อวัน
ก็ไม่ใช่นิสัยของคนร วย คนร วยนั้นจะต้องรับความ เ สี่ ย ง เฉพาะที่มีการพิจารณาอย่ างถี่ถ้วนแล้วเท่านั้น
ขอบคุณที่มา : sabailey