Home เรื่องน่ารู้ สิ่งที่คุณควรปรับตัว ในยุคที่ AI จะมาแทนทุ กอย่ าง

สิ่งที่คุณควรปรับตัว ในยุคที่ AI จะมาแทนทุ กอย่ าง

20 second read
ปิดความเห็น บน สิ่งที่คุณควรปรับตัว ในยุคที่ AI จะมาแทนทุ กอย่ าง
0
376

1. เตรียมตัวรับมือ

เป็นความคิดที่พื้นฐานที่สุดแล้ว เพราะทุ กวันนี้ AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

หรือเรื่องที่จะรู้เฉพาะคนที่มีการศึกษาสูง ๆ อีกต่อไป

เนื่องจากคนกลุ่มแรก ๆ ที่จะถูก AI แ ย่งงาน

คือแรงงานฝ่ายผลิตในอุตสาหกร รมต่าง ๆ แม้จะฟังดูสิ้นหวังแต่เราต้องไม่หมดหวัง

ในเมื่อเราก็พอจะรู้แล้วว่า AI ฉลาดมากแค่ไหน และในอนาคตจะต้องฉลาดขึ้นอีกแน่นอน

ถ้าประเมินรอบด้านแล้วรู้ว่ายังไงก็สู้เทคโนโลยีตัว AI ไม่ได้

คงต้องมองหาลู่ทางใหม่ หรือเตรียมแผนสำรองไว้ว่าถ้าวันใดเกิดต กงานขึ้นมากะทันหันจะทำอย่ างไร

ซึ่งตอนนี้ยังพอมีเวลาให้คิดวางแผน จะได้ไม่จวนตัวนัก

 

2. เรียนรู้ที่จะทำงานกับ AI

เมื่อประเมินความสามารถของตนเองแล้วพบว่าตัวเองยังเอาตัวรอดในยุคที่ AI ครองเมืองได้อยู่

จะดีกว่าไหมถ้าเราจะพย าย ามขึ้นอีกนิดเพื่อให้ทำงานร่วมกับ AI ได้อย่ างสงบสุข

พูดง่ายก็คือ ไหน ๆ ก็คงห้ามบริษัทไม่ให้เอา AI มาทำงานไม่ได้ ก็ใช้ประโยชน์จาก AI เสี ยเลย

จากการศึกษาของ Carl Benedikt Frey และ Michael A. Osborne นักวิจัยจากมหาวิทย าลัยออกซฟอร์ดกล่าวว่า

ข้อจำกัดของ AI ที่ยังทำงานแทนคนในระยะเวลาอันใกล้นี้ไม่ได้ คือ งานที่ใช้ความละเอียดทางประสาทและการมองเห็น

งานที่ใช้ความสร้างสรรค์ความประณีต และงานที่ใช้ความฉลาดทางสังคม ในเมื่อเรารู้แล้วว่า AI ทำอะไรได้ไม่ได้

ก็ใช้ความสามารถของตนเองไปเติมเต็มจุดด้ อยของมันซะ อย่ างน้อย ๆ เราก็ยังพอทำงานเป็นคู่หูกับ AI ได้

 

3. พัฒนาทักษะและความสามารถ

ถึง AI จะฉลาด แต่ AI ก็เกิดขึ้นมาเพราะสติปัญญาของคน ฉะนั้น ยังไม่สายที่จะพัฒนาตัวเอง ถึงจะฉลาดเท่าหรือมากกว่าไม่ได้ (เพราะเป็นไปได้ย าก)

แต่ก็ยังจะมีประโยชน์ต่อองค์กรมากกว่าคนที่ไม่คิดจะปรับตัวอะไรเลย ตัวอย่ างที่เราเห็นได้ชัดในปีนี้ ก็คือตลาดแรงงานได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก

ทั้งผลพวงจากโ รคระบ าดที่หลายคนต้องพักการทำงาน แต่ขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็ไม่ได้หยุดพัฒนา

และพร้อมที่จะขึ้นมามีบทบาทแทนมนุษย์ในอนาคตอันใกล้อีกทั้งการแข่งขันระหว่างธุรกิจในปัจจุบันก็ค่อนข้างสูง

เพราะต่างก็ต้องพยุงให้ธุรกิจตัวเองอยู่รอด การลดต้นทุนเป็นสิ่งแรกที่องค์กรจะทำ

ทำให้บุคลากรที่มีทักษะไม่ตรงกับความต้องการของตลาดก็เ สี่ยงต กงานสูง

จึงจำเป็นที่เราควรจะพัฒนาทักษะความสามารถของตนเอง อย่ างน้อยก็ควรจะพัฒนาในสิ่งที่ตนเองชอบหรือถนัดให้ได้บ้าง

เช่น ทักษะทางภาษาที่ 2 ที่ 3 ทักษะทางเทคโนโลยี (จะได้ใช้ประโยชน์และอยู่ร่วมกับ AI ได้)

ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น (เพราะ AI ไม่มีสังคมเหมือนมนุษย์)

ทักษะในการคิดวิเค ราะห์ การรับมือปัญหาที่ซับซ้อน เป็นต้น

 

4. ฝึกทำอะไรให้ได้มากกว่าหนึ่งอย่ าง

เป็นปกติขององค์กร ที่ในใจลึก ๆ เขาก็อย ากให้บุคลากรทำงานได้มากกว่า 1 อย่ าง ต้องไม่ลืมว่านี่คือการทำธุรกิจ

ที่แต่ละองค์กรต่างก็ต้องแสวงหาผลกำไร การจ้างงานคนก็ย่อมต้องการผู้ที่จ้างแล้วคุ้มที่สุด นั่นแปลว่าบุคลากรที่เ งินเดือนค่อนข้างสูง

บริษัทอาจคาดหวังว่าควรจะทำอะไรได้มากกว่าหน้าที่ประจำ อย่ างน้อยก็เพิ่มมาอีกสักอย่ างสองอย่ าง

จะได้ไม่ต้องจ้างบุคลากรเพิ่มเพื่อลดต้นทุน เพราะการที่บริษัทต่าง ๆ นำ AI มาใช้กับธุรกิจก็เพื่อลดกำลังคน

เนื่องจาก AI เป็นเทคโนโลยีที่ลงทุนแค่ครั้งเดียวแต่สามารถใช้งานได้หลายปี AI และไม่มีปากมีเ สียง

ในขณะที่แรงงานคนต้องจ่ายค่าจ้างทุ กเดือน ทั้งประสิทธิภาพการทำงานของคนก็ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่แน่นอน

ตามสภาวะจิตใจและสภาพแวดล้อม ทั้งยังจะมีปัญหากับการทำงานร่วมกับผู้อื่น

นั่นหมายความว่า AI สามารถทำงานได้คุ้มทุนและรั กษามาตรฐานการทำงานได้ดีกว่าแรงงานคน

 

5. ฝึกใช้ความคิดให้มาก ๆ

อย่ างที่บอกว่าข้อได้เปรียบที่มนุษย์มีเหนือกว่า AI คือการทำงานที่ต้องใช้ความละเอียดทางประสาทและการมองเห็น

งานที่ใช้ความสร้างสรรค์ และงานที่ใช้ความฉลาดทางสังคม ถึง AI จะฉลาดมาก แต่ AI ไม่มีอ ารมณ์ความรู้สึก มันทำงานตามคำสั่งที่เราป้อนเข้าไป

ดังนั้น งานอะไรก็ตามที่ยังต้องใช้อ ารมณ์ความรู้สึก ใช้ความละเอียดรอบคอบ ใช้สม องสร้างสรรค์อย่ างซับซ้อน

งานที่มีประสิทธิภาพสูง ๆ หรือการแก้ไขปัญหาแปลก ๆ ยังมีแค่มนุษย์ที่ (ศักยภาพสูง) ทำได้

คนกลุ่มนี้จึงมีโอกาสที่จะไปต่อได้อีกนานพอสมควร เพราะ AI ยังทำหน้าที่วิเคร าะห์ได้อย่ างละเอียดลึกซึ้งแทนคนไม่ได้ในอนาคตอันใกล้นี้

 

ขอบคุณที่มา : forlifeth

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In เรื่องน่ารู้
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …