1. โพสต์รูปร้องไห้รูปโชว์เนื้ อหนังเพื่อเรียกร้องความสนใจ
มันเป็นความย้อนแย้ง ที่ทำให้เกิดความขบขัน เพราะคนที่มาเห็นส่วนใหญ่
มักจะคิดว่า “ร้องไห้เสี ยใจ เธอยังมีอ ารมณ์ถ่ายรูปตัวเอง
ในสภาพหน้าพัง ๆ ด้วยเหรอ” “ปากบอกว่าไม่ชอบพวกหื่ น พวกคุ กคามทางเพ ศ
แล้วจะโชว์รูปที่ล่อเสือ ล่อตะเข้ทำไม” การโพสต์ด้วยข้อความ
หรือภาพในเรื่องหวาดเ สียว ไม่น่าดูแบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไร กับการเรียกแขก
ให้มาด่าวิพากษ์วิจารณ์ เราว่าแสดงออกอะไรที่ตลก ไม่งาม ไม่แพง
เหมือนพวกเรียกร้อง ความสนใจและเห็นแ ก่ตัว เพราะช่างไม่รู้มารย าทสังคม
ไม่รู้ก าลเทศะเอาซะเลย ต่อให้เป็นคนหน้าตาดี ก็ไม่สามารถอนุโลม ความรุ นแรง
ที่จะหลั่งไหลเข้ามาได้ ถ้าไม่อย ากให้คนอื่นว่า เอาก็ต้องคิดให้ดีก่อนโพสต์
2. เพ้อถึงความโสดทุ กฤดูทุ กเช้าสายบ่ายเย็น
ผู้หญิงโสด จะน่ารักก็ต่อเมื่อ ไม่โปรโมทตัวเอง เหมือนสินค้า
โสดแบบมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ขยันโพสต์ ว่าจีบฉันสิ ฉันอ่อยแล้วนะ
โสดแล้วเหงาจัง อะไรทำนองนี้ อย ากให้มีคนมาจีบ ไม่ต้องรีบขา ย
ตัวเองขนาดนั้นก็ได้จ้ะ ชีวิตเรายังมีเรื่องอื่น ให้สนใจอีกตั้งเยอะ
การโฟกัสที่เรื่องรักอย่ างเดียว จับจ้องมองหาซะตั้งใจขนาดนี้ มันดูไม่แพงเอาซะเลย
เรื่องความรัก ถ้าจะมาเดี๋ยวก็มาเอง โดยที่เราไม่เรียกร้องให้เหนื่อย
3. โพสต์รูปบ่นสรีระตัวเองทั้งที่ก็ไม่ได้แ ย่อะไร
อย่ าด่าตัวเอง เพื่อให้คนอื่นชม แต่ควรให้คนอื่นชมตามความจริง
ตามธรรมชาติ ช่างเป็นเรื่องไร้ส าระสิ้นดี ที่คนหน้าตาดี รูปร่างดีอยู่แล้ว
มาโพสต์ด่าตัวเองออกสื่อว่าอ้วนจังดำจัง ความสวยที่แท้จริง ควรมาจากการมั่นใจ
ในตัวเองว่ามี ดี ส่วนอันไหนที่ไม่ดี ก็รู้ตัวเอง ปรับปรุงตัวเองเงียบ ๆ
ไม่ต้องป่าวประกาศให้โลกรู้ ด่าตัวเองไม่พอ ยังจะเรียกให้คนอื่นมารู้
เห็นด้วย มันไม่โอเคเลยนะ
4. เอาเรื่องภายในมาสาวไส้ให้โลกรู้
เกลียดใครทะเลาะกับใคร ก็ตามไม่ว่า จะเป็นคนในครอบครัวเพื่อนในกลุ่มแฟน
เพื่อนร่วมงาน การโพสต์ออกไป ไม่ใช่แค่ระบายอ ารมณ์แล้วจบ เพราะสิ่งที่
อาจจะตามมาก็คือ ความสัมพันธ์ที่เป็นปัญหาอยู่แล้ว อาจมีผลกระทบ
ที่หนักกว่าเดิม และในที่สุด ไม่ใช่แค่คนอื่นที่ดูไม่ดี ตัวเราก็ด่างพร้อยไปด้วย
สิ่งที่ควรทำก็คือใจเย็น ๆ ไปพูดปรับทุ กข์กับใครก็ได้ ที่ไว้ใจจนกว่าจะสบายใจ
ไปเคลียร์กันให้จบ ๆ ตัวต่อตัวในโลกนอกจอ หรือถ้าอดใจไม่ได้ ก็ขอให้มีสติ
ในการโพสต์นิดนึงระบายให้เต็มที่ แล้วตั้งค่าให้เห็น เฉพาะตัวเองซะ เพราะอะไรที่เราโพสต์ไป
ด้วยอ ารมณ์โกรธใจร้อน มันโพสต์แล้วโพสต์เลย มีหลายสายตา
จับจ้องรู้เห็นไปแล้ว เราไม่โ ชคดีทุ กครั้งไปหรอก
5. หย าบคายเป็นนิสัยโดยคิดว่านี่แหละความในใจที่จริงใจสุด ๆ
ความถี่ในการแสดงออก มีผลทางจิตวิทย า กับตัวเราเสมอ
ถ้าเราไม่รู้จักแยกแยะ ว่าบริบทไหน ควรใช้คำแบบไหน
หรือเหวี่ยงความผิดใส่คนอื่น ว่า“ก็ช่างคนอื่นสิ ใครใช้ให้มาตัดสิน
คนที่ภายนอก” มันไม่น่ารัก ไม่ช่วยให้ตัวเองดูดีเอาซะเลย
มันเป็นเรื่องพอเข้าใจได้ ถ้าเราจะคุยกันแบบหย าบคายกับเพื่อนฝูง
แต่อย่ าติ ดนิสัย สะกดจิตตัวเองว่าหย าบคายนี่แหละ จริงใจ
นึกจะโพสต์คำหย าบคายใต้สะดือ ก็โพสต์ นึกจะด่าใครลอย ๆ ก็ด่า
ไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำอะไรเกรงใจ การศึกษา เกรงใจหน้าตาสวย ๆ
ของตัวเองกันนิดนึง keep look กันบ้าง แคร์สายตาหลายคู่
ที่ผ่ านไปมาบ้าง การเลือกที่จะแสดงออกหลายแบบ ไม่ใช่คน
ที่เป็นนกหลายหัว หากแต่เป็นคนที่รู้จัก เลือกที่จะวางตัวให้เหมาะสมต่างหาก
6. ตอบโต้กับคอมเมนท์ที่ไม่เป็นใจด้วยวิ ธีแรงมาแรงกลับ
ปัญหาที่แ ย่ ๆ เราเลือกที่จะจบสวย ๆ ด้วยการอธิบายเหตุผลดี ๆ
หรือปล่อยเขาไป ไม่ตอบโต้ ไม่ให้ความสำคัญ แต่ถ้าเราเลือกแรงมา
แรงกลับ มันก็เหมือนกับ น้ำมันราดกองไฟ ด่ากันไปมา แล้วเมื่อไหร่
จะจบ เสี ยสุ ขภาพจิต กันเปล่า ๆ เอาเวลาไปสนใจ เรื่องอื่นดีกว่า
เสี ยเวลาดึงตัวเองลงต่ำ เพราะคนไม่กี่คน เรื่องไม่เป็นเรื่อง
ขอบคุณที่มา : stand-smiling