1. สติมาปัญญาเกิด
เชื่อเถอะค่ะความรู้สึกแรกเมื่อรู้ว่าตนเองต้องต กงาน คุณต้องช็อก สับสน งุนงงและสติแต กแน่ ๆ
ว่าต่อแต่นี้จะต้องทำอย่ างไรดี สิ่งแรกที่คุณควรทำคือคุณต้องตั้งสติให้ได้และต้องทำให้ไวด้วย
ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปค่ะ การมัวมานั่งเสี ยใจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ตั้งสติให้ได้
บอกกับตัวเองว่าวิ ก ฤ ตินี้คุณต้องผ่ านไปให้ได้ เชื่อเถอะค่ะถ้าคุณคิดจะลุกขึ้นสู้ ไม่มีอุปสรรคใดที่คุณจะก้าวไม่พ้น
2. ดูเรื่องค่าชดเชยที่คุณจะได้รับตามก ฎ ห ม า ย
เมื่อตั้งสติได้แล้วต่อมาคุณต้องดูเรื่องค่าชดเชยที่บริษัทต้องจ่ายให้คุณตามก ฎ ห ม า ย
ถ้าคุณต้องถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดและไม่ได้หมดสัญญาจ้างงาน ก ฎ ห ม า ยเขาก็มีข้อคุ้มครอง
ลูกจ้างเช่นคุณตามก ฎ ห ม า ย อย่ ากลัวที่จะเจรจาเรียกร้องค่าชดเชยจากนายจ้าง
ถ้าคุณไม่มีความผิด หากนายจ้างบ่ายเบี่ยง อิดออดไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยตามก ฎ ห ม า ย
คุณสามารถร้องเรียนไปยังกระทรวงแรงงานได้ทันทีค่ะ
3. รีบไปเช็กสิทธิ์ประกันสังคม
เมื่อรู้ว่าต้องต กงานแน่ ๆ คุณควรรีบไปเช็กสิทธิ์ที่คุณควรจะได้รับกับสำนักงานประกันสังคม
ในกรณีที่คุณเป็นผู้ยื่นประกันตนว่าคุณยังจะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้ างและเป็นระยะเวลาเท่าไร
จากนั้นให้ไปขึ้นทะเบียนคนว่างงานเพื่อรับเงิ นชดเชยตามสิทธิ์ที่คุณควรจะได้รับ
หากไม่ใช่การถูกไล่ออกเพราะมีความผิดหรือการหมดสัญญาจ้างงาน
คุณก็มีสิทธิ์ได้รับเงิ นชดเชยสูงสุด 6 เดือน การขึ้นทะเบียนคนว่างงาน
คุณจะต้องทำภายใน 30 วันหลังถูกเลิกจ้าง
4. สำรวจเงิ นเก็บและจัดระเบียบรายจ่ายเสี ยใหม่
ขั้นตอนต่อมาคือคุณต้องสำรวจเงิ นเก็บทุ กก้อนของคุณค่ะว่ามีอยู่เท่าไหร่
และอยู่ตรงไหนบ้ างเพื่อที่ว่าคุณจะได้ดึงออกมาใช้ได้ทันที
จากนั้นคุณต้องสำรวจและจัดระเบียบรายจ่ายทั้งหมด
ของคุณว่ามีอะไรบ้ างเพื่อจะได้ทำการตัดทอนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมดออกไป
ถัดมาหากคุณเป็นห นี้ไม่ว่าจะเป็นห นี้บ้ านหรือห นี้บัตรเครดิต
ลองหาทางเจรจายืดหยุ่นการชำระห นี้กับเจ้าห นี้ให้ดี คุณจะได้ไม่เดื อดร้อนมากนัก
5. มองหางานใหม่ทันที อย่ าปล่อยให้ต้องต กงานนาน
การต กงานเป็นระยะเวลานานไม่ใช่เรื่องดีค่ะ เพราะจะทำให้เงิ นเก็บของคุณค่อย ๆ
ร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ คุณควรจะมองหางานใหม่ทันทีเมื่อคุณจัดการจัดระเบียบชีวิตของคุณได้เรียบร้อยแล้ว
คุณอาจจะไปขึ้นทะเบียนกับกรมจัดหางานให้ช่วยเหลือหรือส่งประวัติการทำงานของคุณ
ไปยังบริษัทต่าง ๆ และมองหาช่องทางในการหางานทุ ก ๆ ช่องทางเท่าที่คุณจะทำได้ค่ะ
6. หาอะไรทำระหว่างรอเพื่อหารายได้มาแบ่งเบาเพราะ
ถึงตรงนี้คุณอาจต้องมาสำรวจตัวคุณแล้วค่ะว่า คุณมีทักษะพิเศษอะไรอีกหรือไม่
ที่พอจะนำมาทำได้ระหว่างรองานใหม่ เพื่อหารายได้มาช่วยบรรเทาภาระนี้ค่ะ ทักษะพิเศษนี้อาจ
เป็นสิ่งที่คุณมองข้ามหรือไม่ทันนึกถึง หากคุณคิดไม่ออกจริง ๆ ลองมองหาลู่ทางอื่น
ที่จะทำให้คุณมีรายได้มาใช้จ่ายก่อนก็ได้ค่ะ เช่นการขายของ ขายอะไรดี ให้มีกำไร
อ่ า นได้ในบทความนี้ การทำอ า ห า รขาย หรือนำเอาเสื้อผ้ามือสองที่คุณไม่ใช้แล้วมาขายค่ะ
ขอบคุณที่มา : jingjai999