1. หาเงิ นได้ ต้องมีเ งินเก็บ
เราจงเป็นประหยัด (แต่อย่ าขิ้งก) เพราะการประหยัด ต่างจากการขิ้เหนียว
คือ คนที่ประหยัดเขาจะรู้จักจ่ายในสิ่งที่ควรจ่าย ส่วนคนที่ขิ้เหนียวนั้นจะไม่ยอมจ่ายอะไรเลย
แม้จะจำเป็นแค่ไหนก็ไม่ยอมจ่าย เพราะการมีเ งินแต่ไม่สามารถใช้จ่ายอย่ างเหมาะสมได้
มันน่าเป็นทุ กข์กว่า การที่มีเงิ นน้อยอีกนะ คนที่ต้องการจะรว ยเนี่ย
จึงไม่ควรลดค่าใช้จ่ายจนถึงขั้นขิ้เหนียว หากมีสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้
ก็ต้องใช้ไปอย่ าเก็บเ งินอย่ างเดียว จนไม่ยอมเอาเงิ นที่มีไปรั กษ าตัวเอง เจ็ บป่ วยมา
ก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้และสิ่งที่สำคัญ ที่สุดของคนเรา ไม่ใช่เงิ นแน่ ๆ แต่มันคือสุ ขภาพ
ของเราต้องมาก่อนหากมีเงิ นแล้วสุ ขภาพไม่ดี เงิ นที่มีก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้ จริงมั้ย!
2. คิดให้ถูก ก่อนวิ่งหาเ งิน
การมีแค่ไหนจึงเรียกว่าร วย หากพูดถึงคำว่า เงิ นใคร ๆ ก็ อย ากมีกันทั้งนั้น
แต่มีเ งินแค่ไหนล่ะจึงจะเรียกว่าร วย พอจำนวนเงิ นไม่ได้ตอบโจทย์ว่า
เท่าไหร่ถึงจะร วย คำว่าร วย น่าจะขึ้นอยู่กับเรื่องอื่น ๆ ด้วยเราต้องมาดูว่า
เรามีความจำเป็นจะต้องใช้มากน้อยแค่ไหน แต่หากเรามีทรัพย์สินทั้งเงิ นท อง
ที่ดิน ร ายได้จากการให้เช่ า หรือร ายได้อื่นๆ ที่ทำให้เราอยู่ได้แบบที่ไม่ต้องทำงาน
มันก็น่าจะเข้าข่ายคน ที่เรียกว่า ร วยได้ การตั้งเป้าหมายนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายของตัวเราด้วย
เพราะหากใช้มากก็ร วยย าก แต่หากใช้น้อยเก็บเยอะ ก็ร วยเร็วบางคนเรียกความร วยว่า
อิสรภาพทางการเ งิน ง่าย ๆ คือไม่ได้ทำงานก็สามารถ ใช้ชีวิตอยู่ได้ยังไงล่ะ
3. แนะนำวิ ธีใช้ชีวิต เพื่อรั กษาความร วย ให้อยู่กับเรานาน ๆ และยั่งยืน
ช่วยกันหาทั้งครอบครัว และถ้าเป็นคนโสด เราจะหาจะจ่ายอะไร
ก็ทำได้และเป็นอิสระไม่ต้องมีใครมาช่วยตัดสินใจ แต่กลับกัน เมื่อเราแต่งงานมีครอบครัวแล้ว
การคิดถึงครอบครัวนั้นเป็นเรื่องที่เลี่ ยงไม่ได้ เพราะอุปนิสัยของคู่ชีวิตนั้น ชี้เป็นชี้ ต ๅ ย ถึงอนาคต
ความร่ำร วยของครอบครัวได้เลยและถ้าคุณเลือกคู่ชีวิตที่มีนิสัยใช้เงิ นฟุ่มเฟือย
ไม่ว่าจะขยันแค่ไหนหาเงิ นเก่ง มันก็เหมือนขันตั กน้ำก้นรั่ วแต่หากคุณเลือกคู่ชีวิต ที่รู้จักออมช่วยกัน
โอกาสที่จะร่ำร วยก็มี หากคุณได้มีโอกาสได้เลือกคิดดูสิว่า คุณควรเลือกคู่ครอง แบบไหน จึงจะเหมาะกับคุณ
ขอบคุณที่มา : profession-j55