1. คิดแต่ที่จะทำให้ตัวเองโดดเด่น
ไม่ว่าเราหรือใครก็อย ากโดดเด่นเป็นที่จับตามองโดยเฉพาะในเรื่องหน้าที่การงาน การทำตัวเองให้โดดเด่นเฉิดฉายเป็นสิ่งที่ดี
เพราะนอกจากจะได้ความภูมิใจแล้ว ก็ยังส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพด้วย แต่การที่เราพย าย ามมากเกินไปถึงขั้นขโมยสปอตไลท์จากคนอื่น
เอาความดีความชอบมาเป็นของตนเองคนเดียวย่อมไม่มีใครเห็นดีเห็นงามด้วยแน่นอน
แก้ไขอย่ างไร
หากผลงานชิ้นนั้นเป็นสิ่งที่เราทำการที่เราจะนำความดีความชอบนั้นมาเป็นของเราย่อมไม่ใช่สิ่งผิด แต่หากผลงานชิ้นนั้นมีการร่วมงานกับเพื่อน
พนักงานคนอื่นหรืออาจจะเป็นลูกน้องของตัวเราเองการให้เครดิต กับคนเหล่านี้ด้วยเป็นสิ่งที่ควรทำ อย่ างที่เราเองต้องการความโดดเด่นผู้อื่นก็คง
ต้องการไม่ต่างจากเราซึ่งการให้เครดิตผู้อื่นเป็นการแสดงออกให้เพื่อนร่วมงานเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับทีม เราให้การยอมรับในผลงานและฝีมือของพวกเขา
สร้างให้พวกเขาเองเกิดความภาคภูมิใจและเป็นการซื้อใจเพื่อนร่วมงานในอีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน
2. ไม่เคยมองเห็นความผิ ดพลาดของตัวเอง
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อย ากจะปกป้องตัวเองจากความรู้สึกผิดในทุ ก ๆ เรื่อง เรื่องงานเองก็ไม่มีข้อยกเว้น ผิดคนอื่นมองเห็นเท่าภูเขา
ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นผมคำกล่าวนี้จึงไม่เกินความเป็นจริงเลย เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในที่ทำงาน เรากลับไม่พิจารณาตนเองก่อน
หรือไม่เห็นความผิ ดพลาดของตัวเอง กลับโยนให้ทุ กอย่ างเป็นความผิดของคนอื่นหมด ลองพิจารณาตัวเองว่าเราเป็นหนึ่งในคนแบบนี้หรือเปล่า
แก้ไขอย่ างไร
ไม่ต้องอายที่จะยอมรับความผิ ดพลาดของตัวเองอย่ างเต็มภาคภูมิ คนเราย่อมมีการผิ ดพลาดกันได้เป็นเรื่องธรรมดา การยอมรับผิด และ
พร้อมที่จะหาทางแก้ไขปัญหา ไม่โ ทษผู้อื่นไม่เพียงแต่จะช่วยให้เพื่อนร่วมงานชอบเรามากขึ้น แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือและความซื่อตรง
ให้กับตัวเราเองได้อีกด้วย แต่แน่นอนว่าเราเองก็ต้องเรียนรู้จากความผิ ดพลาดนั้น และพย าย ามพัฒนาตัวเองเพื่อไม่ให้ความผิ ดพลาดเกิดขึ้นอีก
3. วิจารณ์ทุ กอย่ าง
การที่เราแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เป็นการกระทำที่ไม่ได้ผิดอะไร แต่การวิจารณ์หรือตำหนิไปทุ ก ๆ อย่ าง ไม่ว่าจะเป็นงาน
โปรเจกต์ต่าง ๆ หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน นอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนร่วมงานแล้ว
ยังอาจเกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างทีมได้อีกด้วย
แก้ไขอย่ างไร
พย าย ามบ่นให้น้อยลง เมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ เราควรจะมองหาวิ ธีแก้ปัญหามากกว่าที่จะบ่นเกี่ยวกับมันไปเรื่อย ๆ โดยไม่พย าย ามแก้ไขอะไร
และถ้าหากว่าเราไม่มีความสุขกับสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นไปในองค์กรหรือในตำแหน่งหน้าที่ของเราสิ่งที่เราควรทำคือพย าย ามหาทางแก้ไขสิ่งนั้น
4. ไม่เข้าสังคม
แน่นอนว่าเมื่อเราตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานในองค์กร เราต้องได้พบเจอและทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมแผนก หรือแม้กระทั่งต่างแผนก
การเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำงานยุคปัจจุบัน เนื่องจากไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในตำแหน่งไหน
เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำงานเป็นทีมได้ หากเราเป็นคนที่ไม่เข้าสังคม คิดแต่ที่จะอยู่กับตัวเอง
ไม่ให้ความร่วมมือกับส่วนรวมเท่าไร คงเป็นการย ากที่เพื่อนร่วมงานของเราจะประทับใจในตัวเราได้
แก้ไขอย่ างไร
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่ว่าเราจะมีโลกส่วนตัวขนาดไหน การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็เป็นสิ่งที่ข าดไม่ได้
ลองพย าย ามที่ตอบต กลงเวลามีใครชวนไปกินข้าวกลางวัน หรือนั่งพูดคุยหลังเลิกงาน สิ่งเล็ก ๆ
เหล่านี้คือจุดเริ่มต้นที่ดีไม่น้อยในการเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
5. ไม่เคารพพื้นที่ หรือเวลาส่วนตัวของคนอื่น
การทำงานอย่ างมืออาชีพได้นั้น เราต้องรู้จักพื้นที่ส่วนตัว และเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมองค์กร รวมไปถึงหัวหน้าด้วย
ถึงแม้ว่าตัวเราเองอาจไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่การก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัว หรือเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน
เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่ างยิ่ง เพราะนอกจากจะรบกวนเพื่อนร่วมงานแล้ว เรายังแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความไม่มืออาชีพของเราเองด้วย
แก้ไขอย่ างไร
เรียนรู้ที่จะเคารพพื้นที่และเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน อย่ าคาดหวังว่าคนอื่น ๆ จะทิ้งทุ กอย่ างเพื่อมาให้ความช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลา
เราควรจะเอาใจเขา มาใส่ใจเรา และรู้จักก าลเทศะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปพูดคุย ขอความช่วยเหลือ รวมไปถึงเรื่องเล็ก ๆ
อย่ าง การส่งเสี ยงดังในที่ทำงาน นั่นก็ถือเป็นการไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นเช่นกัน
6. ไม่เคยหยุดนินทา
การนินทาไม่เคยเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นการนินทาเรื่องอะไร หรือนินทาใคร นอกจากจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีแล้ว มันยังทำให้ความน่าเชื่อถือของตัวเราลดลงไปมาก
อีกทั้งเพื่อนร่วมงานก็จะไม่ให้ความไว้วางใจที่จะพูดคุยหรือปรึกษาอะไรอีกด้วย การนินทาอาจเป็นเรื่องที่สนุกสนานที่เราอาจ
จะทำได้ในบางเวลา แต่มันสามารถทำให้เพื่อนร่วมงานของเราไม่ชอบเราได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน
แก้ไขอย่ างไร
เลิกนินทาคนอื่นเถอะถ้าสามารถทำได้ หรือถ้าหากเราไม่ได้เป็นคนที่นินทาคนอื่นอยู่แล้ว จะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าเราสามารถพา
ตัวเองออกจากกลุ่มนินทาประจำออฟฟิศ วิ ธีง่าย ๆ คือการเปลี่ยนบทสนทนาในกลุ่ม หรือขอตัวออกมาจากวงสนทนานั้น
ขอบคุณที่มา : 108resources