1. ความเหลื่อมล้ำจะมากขึ้น
ขณะที่คนหาเช้ากินค่ำแทบจะไม่มีกินมีใช้ถ้าวางแผนการเงิ นไม่ถูกลงทุนไม่เป็นคงต้องทำงานหนักไปทั้งชีวิต
2. คอรับชั่นมากขึ้น
อะไร ๆ มันก็หาย ากก็แพงขึ้นคนจะยอมทำทุ กอย่ างเพื่อเ งินทำให้เกิดการคอรับชั่นตามมาไงล่ะ
3. สินทรัพย์ต่างราคาจะไม่ลดลง
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคนมีเงิ นไม่มีเหตุผลที่จะถือเ งินสดง่าย ๆ เลยคือเงิ นจะไหลออกจาก
ธนาคารที่ไม่มี ด อ ก เ บี้ ย ไปอยู่ในสินทรัพย์ที่มันให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ลงทุนในกองทุนลงทุนหุ้นที่ได้เ งินปันผลแทน ด อ ก เบี้ย
ลงทุนอสังหาที่ให้ค่าเช่าและคนที่ถือครองทรัพย์สินพวกนี้ไว้เขาไม่คิดจะปล่อยขายออกมามันจึงเป็นเหตุผลให้ราคาสินทรัพย์สูงเกินเอื้อม
สมัยก่อนทำงานไม่กี่ปีก็ซื้อบ้านได้แล้วแต่มาดูทุ กวันนี้ล่ะสิผ่อน 30 ปีได้คอนโดห้องเดียวที่ดินก็ยังไม่ใช่ของเราอีก
4. เงิ นจะหาย ากขึ้นคนไม่จับจ่าย
หาก ด อ ก เ บี้ ย เงิ นฝากเท่ากับคนที่มีเ งินฝากทั้งหมดไม่ได้ ด อ ก เ บี้ ย ซึ่งปกติเงิ นที่งอกออกมา
จากในระบบ ด อ ก เ บี้ ย มันมีมากถึงแสนล้านบาทต่อปีคิดดูสิว่าเ งินที่หายไปจะทำให้กำลังซื้อลดลงเพียงใดล่ะ
5. เงิ นเฟ้อแฝง
มีบางคนยังไม่รู้ว่าเงิ นเฟ้อแฝงก็คือค่าครองชีพการที่ ด อ ก เ บี้ ย เงิ นฝากไม่มีไม่ได้แปลว่าค่าครองชีพจะไม่เพิ่มเพราะจากที่ผ่ านมาในอดีต
เราก็ได้เห็นแล้วว่าค่าครองชีพเพิ่มขึ้นเงิ นที่เรามีคุณค่ามันจะน้อยลงและไม่สามารถฝากเ งินกิน ด อ ก เ บี้ ย เหมือนก่อนได้แล้ว
6. เพราะเ งินหาย ากเงิ นจะเหนือคนมากขึ้น
เพราะคนส่วนใหญ่นั้นจะทำทุ กอย่ างเพื่อมันเพื่อให้ได้มันมาพวกเขาจะทำทุ กอย่ างโดยไม่สนวิ ธีและไม่แคร์อะไร
ขอบคุณที่มา : profession-j55