ที่เมืองเมืองหนึ่ง มีเด็ กหนุ่มผู้เรียนรู้ช้า เขาเป็นลูกชายของพ่อค้า
แม้ว่าบิดาของเขา จะส่งเขาไปเรียนวิชาความรู้สักเท่าใด แต่เขาก็ไม่อาจก้าวหน้าทันคนอื่นได้สักที
สร้างความกลุ้มใจให้พ่อของเขายิ่งนัก จนในที่สุดพ่อของเขาจึงจ้างบัณฑิตมาสอนที่บ้าน
แทนที่จะส่งไปเรียนที่สำนัก เนื่องจากเห็นว่าลูกของตนหัวช้ากว่าคนอื่น
เด็ กหนุ่มผู้ที่เรียนรู้ช้า มีนามว่า “อาหลง”
อาหลงนั้นเมื่อเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ก็พาลหมดกำลังใจไม่อย ากจะเรียนรู้ศึกษาหาวิชาอีกต่อไป
ดังนั้น เมื่อเรียนไม่ทันเพื่อน จึงไม่ยอมอ่ านหนังสือ หรือว่าตำราเล่มไหนอีกเลย
เมื่อบิดาของเขาบอกให้มาเรียนตัวต่อตัวกับอาจารย์ที่บ้าน เขาก็ไม่ใคร่อย ากจะใส่ใจเรียนเท่าใดนัก
“ท่านพ่อ ท่านก็รู้ว่าข้าเรียนหนังสือไม่ได้เรื่อง ท่านอย่ าหาอาจารย์มาสอนข้าเลย” อาหลงกล่าวกับบิดา
“เจ้าไม่ต้องพูดมาก ข้าให้เจ้าเรียน เจ้าก็จงตั้งใจเรียนเสี ยเถิด” บิดาของเขากล่าว
เมื่อกล่าวถึงอาจารย์ของอาหลง แม้ว่าเขาจะไม่ใช่บัณฑิตที่มีชื่อเ สียงมากนัก
แต่ในเรื่องปรัชญาและความเข้าใจในวิชาความรู้ต่าง ๆ เขาก็มีความรู้ความสามารถไม่แพ้ใครเลยทีเดียว บิดาของอาหลงจึงวางใจให้มาสอนได้
การศึกษาของอาหลงในช่วงแรก ๆ ไม่มีการกระเตื้อง เนื่องจากอาหลงเบื่อหน่ายการเรียน ที่เขาไม่คืบหน้าไปไหนสักที
แต่อย่ างไรก็ตาม อาจารย์ของเขาก็ไม่มีท่าทีเบื่อหน่ายแม้แต่น้อย
มีอยู่วันหนึ่ง อาจารย์ของเขาชวนอาหลงไปเดินเล่นที่สระน้ำ ซึ่งมีสัตว์น้ำ รวมไปถึงเต่ามากมาย
และเมื่อไปถึงสระน้ำ อาจารย์ของเขาก็จับเต่าขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วถามอาหลงว่า
“อาหลง เจ้าว่าเจ้าเต่านี่อืดอาดหรือไม่”
“ท่านอาจารย์ ในบรรดาสัตว์ในโลกนี้ หามีสัตว์ใดที่อืดอาดกว่าเต่าไม่” อาหลงตอบ
“ข้าขอถามเจ้าต่อว่า หากข้าวางเต่าน้อยเอาไว้ตรงนี้” ว่าแล้วอาจารย์ก็ปล่อยเต่าเอาไปไว้ที่ไกลจากสระน้ำพอสมควร
“แล้วเจ้าก็หยุดยืนอยู่ตรงนี้ไม่ขยับไปไหน เจ้าคิดว่าใครจะถึงบ่อน้ำก่อนกัน”
เมื่อจบคำถาม อาหลงก็เห็นว่าเต่ากำลังค่อย ๆ คลานไปถึงสระน้ำด้วยความเชื่องช้า แต่ตัวเขานั้นหยุดอยู่กับที่ไม่ไปไหน
“ท่านอาจารย์ ท่านสั่งไม่ให้ข้าเดิน ข้าจะไปถึงสระน้ำได้อย่ างไร แม้เจ้าเต่าจะเดินเชื่องช้า แต่มันก็ค่อย ๆ เดิน เดี๋ยวมันก็ต้องถึง” อาหลงตอบ
คำตอบของอาหลง ทำให้อาจารย์ของเขายิ้มออกมาแล้วพูดไปว่า
“อันการเดินไปถึงสระน้ำ ก็ไม่ต่างจากการศึกษาหาวิชาความรู้สักเท่าไร
เพราะไม่ว่าจะเดิน หรือว่าเรียนรู้ได้ช้า แต่ถ้าค่อย ๆ เดิน ค่อย ๆ ศึกษา สักวันจะต้องถึงจุดหมายแน่ ๆ
ต่างจากการนิ่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน ต่อให้อีกร้อยปี ก็ไม่อาจถึงจุดหมายได้”
เมื่อาหลงได้ฟังคำของอาจารย์ ก็คิดได้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ศึกษาหาความรู้ จนเข้าใจตำราได้ในที่สุด
ถ้าอย ากประสบความสำเร็จ เราต้องลงมือทำ ลงมือพัฒนาตนเอง แม้ว่าจะเป็นไปอย่ างช้า ๆ แต่ก็ยังดีกว่าการที่เราไม่ทำอะไรเลย
ขอบคุณที่มา : na-aan