การใช้รถใช้ถนนทุ กวันนี้จำเป็นที่เราจะต้องรู้ก ฎ ก ติ ก าบางอ ย่ า งที่นอ กเหนือจากก ฎ ห ม า ยบ้าง
ทั้งเรื่องของประกันและสิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุ บั ติเ ห ตุขึ้น เราควรมีข้อมูลเพื่อที่จะสามารถจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ
ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่มีใบขับขี่ หากเกิดอุ บั ติเ ห ตุขึ้นควรทำอ ย่ า ง ไร
และประกันจะรับผิดชอบหรือไม่ เราไปดูรายละเอียดกัน
1. เมื่อเราได้รับใบแจ้งความเสี ยห า ย หรือได้ใบเคลมมาแล้ว เราจะต้องตรวจสอบอย่ า งละเอียด
ก่อนที่จะเ ซ็ นเอ กส า ร หากรายการไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง ประกันอาจจะไม่รับผิดชอบ
และในกรณีที่รถมีแ ผ ล ช นเก่ามาอยู่แล้ว ทางประกันจะทำการบันทึกว่าเป็นแ ผ ล เ ก่ า
ซึ่งจะจัดความคุ้มครองให้ครึ่งหนึ่ง โดยอีกครึ่งเราต้องจ่ายเอง
2. หากคุณทำประกันชั้น 1 เอาไว้แล้วเกิดไปช น รถ คน หรือท รั พ ย์ สิ นเสี ยห า ย ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ
ประกันจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเช่น กำแพงบ้าน ขอบข้างถนน ต้นไม้
ซึ่งประกันจะรับผิดชอบทั้งหมด แต่ว่าหากคุณไม่มีใบขับขี่ ประกันจะทำการซ่อมรถให้คุณเท่านั้น
จะไม่รับซ่อมให้กับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายเ สียห า ย และถ้าเป็นประกันชั้น 2 หรือ ชั้น 3 หากคุณขับรถไปชนสิ่งใดก็ต าม
แต่ไม่มีใบประกันรถยนต์ก็จะรับผิดชอบทั้งหมด ยกเว้นประกันชั้น 2 จะไม่รับผิดชอบในเรื่องของรถห า ย
หรือเหตุการณ์ที่เกิดจากอัคคีภั ยหรือไฟไหม้
3. การดื่ ม แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ หากระดับเกิน 150 เป็นต้นไป ทางประกันจะไม่รับผิดชอบใด ๆ
ซึ่งหากคุณดื่มมา ให้พย าย ามหลีกเ ลี่ ย งการไปโรงพักเพื่อเ ป่ า แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ หากเป็นไปได้ หรือหากคุณต้อง
เข้าโรง พย าบาลก็ อ ย่ าให้โดนเจาะ เ ลื อ ด เพราะหากเจอปริมาณ แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ ที่สูงกว่ากำหนด
ประกันจะไม่รับผิดชอบใดๆเลย ส่วนข้อหาเ ม าแล้วขับ หากไม่มี อุ บั ติเ ห ตุ ร้ า ย แ ร งต่อผู้อื่น ก็จะโดนจั บและปรับต ามข้อ กฎหมาย
4. หากโดนชนแล้ว ห นี ซึ่งถ้าเราทำประกันชั้น 1 หรือ 2-3 พลัสเอาไว้ แล้วเราจำทะเบียนคู่กรณีได้
ให้เราเข้าแจ้งความที่สถานีใกล้กับที่เกิดเ ห ตุได้เลย จากนั้นให้โทรแจ้งป ระกั น มาจัดการทำเรื่องการเคลมให้
แต่ถ้าไม่เห็นทะเบียนคู่กรณี หากเป็นประกันชั้น 1 จะแจ้งเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณีเช่นชนกับสิ่งกีดขวางอ ย่ า งอื่นแทน
ต ามสภาพของการชนที่น่าจะเป็นไปได้ สำหรับประกันชั้น 2-3 พลัส
5. กรณีที่สภาพรถไม่ตรงกับเอ กส า รเช่น ทะเบียน เลขเครื่อง สีรถ หรือ ภ า ษีข า ด ก็สามารถทำเรื่องเคลมประกันได้
ไม่ต้องกังวลว่าประกันจะไม่รับดำเนินการให้ ยกเว้นประกันไม่สามารถหาหมายเลขตัวถังได้ ประกันอาจต้องขูดเลขเครื่องเพื่อเช็คเลขเครื่อง
6. หากเกิด อุ บั ติ เ ห ตุ แ ต่ ใบขับขี่เราหมดอายุก็สามารถใช้ยืนยันกับปร ะกั นได้ต ามปกติ
แต่หากห า ยหรือโดนยึดก็ให้แสดงใบแจ้งความหรือใบสั่งแทน หากใบขับขี่ห า ยแล้วมีสำเนา
ก็ให้นำสำเนามาแสดงด้วย โดยเฉพาะตอนที่เกิดเหตุเพื่อแสดงตัวตน หรือหากไม่มีก็ให้หามา จนกว่าจะนำรถเข้าซ่อม
7. ในกรณีเกิดเหตุกลางถนนและยังต กลงกันไม่ได้ว่าฝ่ายใดผิด ให้เราเคลื่อนย้ า ยรถได้เพื่อไม่กีดขวางทางจ ร าจ ร
ไม่จำเป็นต้องรอประกัน มาถึง หรือหากมีตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ก็ให้ตำรวจเป็นฝ่ายตัดสิน จากนั้นจึงย้ า ยรถ
หากสามารถต กลงกันได้ก็ไม่จำเป็นต้องไปโ ร ง พั ก ยกเว้น หากเกิดเหตุที่มีคู่กรณีมากกว่า 2 จะต้องไปโ รง พั ก
และผู้ที่ผิดจะต้องเสี ยค่าปรับข้อหาขับรถโดยประมาท
8. หากมีการแต่งรถเสริมร า ค าแพง ประกันชั้น 1 จะจ่ายให้ทุ กกรณีและต้องมีใบ ขั บขี่เท่านั้น
หรือมีใบเสร็จที่ได้จากร้านต กแต่งรถมาเป็นหลักฐานยืนยันเพื่อให้ประกันทำการสลักหลังเพิ่ม
เพื่อคุ้มครองอุปกรณ์ต กแต่งเพิ่มเติม แต่ถ้าเป็นประกันชั้น 2-3 จะไม่คุ้มครองในกรณีอุปกรณ์ต กแต่ง
นอ กจากสาเ ห ตุจะเกิดจากการโดนปาดหน้าจนเสี ยหลัก พุ่ ง ช นต้นไม้ หรือ กระแทกฟุต บ าต หรือ ต กน้ำ
ประกันจะคุ้มครองให้เพราะไม่ใช่ความเ สียห า ยที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างคู่กรณี
9. สำหรับประกันชั้น 1 เราสามารถแจ้งเคลมขอเปลี่ยนสีรถได้ เพราะประกันจะยึดหลักที่ว่า
เกิดเหตุจริงและสามารถเปลี่ยนสีทั้งคันได้เลย
10. การเคลมอะไหล่ทั่วไป หากเราต้องการเปลี่ยนเป็นอะไหล่แต่งพิเศษ เราสามารถทำได้
ถ้าเราสามารถต กลงกับอู่ที่เรานำรถเข้าซ่อมได้ โดยอู่จะทำการเสน ร า คาแ ล้วนำรถไปที่บริษัท
เพื่อต กลงร า ค ากัน เราจะสามารถเลือ กการจัดซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ได้เอง
โดยทางประกันจะทำการโอนเงิ นค่าซ่อมคืนให้เรา
ขอบคุณที่มา : narukdee