วิ ธีทำให้คนรอบข้าง ชื่นชอบในตัวเรามากขึ้น

1. ความมั่นใจในตัวเอง คือสิ่งสำคัญ

การไม่ได้เข้าสังคม หรือ คุยกับมนุษย์คนอื่น เป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เรามีความมั่นใจในตัวเอง

ลดลงดูจากสถานการณ์ ที่ต้อง work from home ในช่วงโควิด ก็ได้ผ่ านมาปีกว่า

แต่หลายคนก็ส ารภาพ ว่าเริ่มพูดน้อยลง ไม่อย ากคุย กับ คนมากขึ้นแล้ว ถ้าเป็นคนที่อยู่กับสภาพแวดล้อมแบบนี้

มาตั้ง แต่เกิดก็ยิ่งไม่คุ้นชิน กับการแสดงตัวตนให้คนอื่นได้ เห็นแต่ถ้าสาว ๆ

อย ากมีเพื่อนมากขึ้น ต้องพย าย ามเพิ่ม ‘ความมั่นใจ ในตัวเอง’ ให้ได้มากที่สุดค่ะ

ความมั่นใจ ในที่นี้ไม่ใช่ การพูดจาแรง ๆ แต่งตัวเซ็กซี่ อย่ างที่คนสมัยก่อน มักคิดกันเสมอไป

แต่หมายถึงการ ‘กล้า’ ที่จะประกาศจุดยืนของตัวเอง ว่าชอบตัวเอง ที่เป็นแบบไหน

ยอมรับไม่ได้กับพฤติ ก ร ร ม แบบใด เสื้อผ้าหน้า ผมจะแต่งหน้า ไม่แต่งหน้าเธอกำหนดเอง

ได้ไม่จำเป็นต้องถูกตี กรอบ ด้วยค่านิยมสังคม ในกระแสปัจจุบัน จะเห็นว่าคนที่โดดเด่นในสังคม

ก็มักจะเป็นคนที่ไม่ไหล ไปตามเ สียงส่วนใหญ่ แต่ทำสิ่งที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองเท่านั้น

ไม่ว่าจะแค่ออกจากบ้าน ไปซื้อของที่ตลาด หรือคอมเมนต์ เพจสาธารณะในโซเชียล

จงแสดงสิ่งที่เป็นตัวเธอแต่ไม่ละเมิด หรือละลาบละล้วงใคร ถ้าอยู่ในพื้นที่ของเรา

แต่มีคนเกลียดนั่น ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องแคร์ เอาเวลาไปผูกมิตร กับคนที่มา ชอบเราดีกว่า

 

2. ชมให้กำลังใจตัวเอง หน้ากระจกในทุ กเช้า

จะมีสักกี่สิบกี่ร้อย คนชมเราถ้าตัวเอง ยังระแวงไม่มั่นใจ ก็ย ากที่จะใจ ฟูอิ่มเอมไปกับคำชมนั้น

ถ้าคำชมจากคนอื่น ทำให้เราวางตัว ไม่ถูกก็เริ่มจากการชมตัวเอง หน้ากระจกในทุ กเช้า ดูสิคะซิส

แม้จะเป็นวิ ธีง่าย ๆ แต่ทรงพลังมาก เพราะมันคือการเปลี่ยน ‘ความคิด’ หาส่วนที่ดีในตัวเอง

ออกมาสัก 1 – 2 อย่ าง แล้วท่ องซ้ำ ๆ ทุ กวันให้ตัวเองฟังท่ องไว้ว่า เธอมีคนเดียวในโลก

เป็น l i m i t e d e d i t i o n เ ธ อ ไม่เหมือนใครแ ละไม่มีใครเหมือนเธอ มี ดี

มากพอที่คนอื่นอย ากเข้ามาทำความรู้จัก และชอบเธอมากขึ้น

แม้สาว ๆ บางคนจะแย้งว่า “ชมตัวเองหน้ากระจก เหรอ ? ดูหลงตัวเองไปไหมนะ

ถ้าคนอื่นคิดว่าฉันขี้เหร่ล่ะ บลา ๆ ๆ “คนเอเชียส่วนใหญ่ มักถูกสอนมากับความอ่อนน้อม ถ่อมตน

ต้องกดตัวเองให้ดูแ ย่ เข้าไว้จะได้ไม่โดนนินทา ซึ่งเป็น mindset ที่ผิดมาก

ถ้าจะมีคนหาเรื่องเกลียดเรา ถ่อมตัวให้ ต า ย เขาก็ด่ า อยู่ดีแถมทำใ ห้ s e l f e s t e e m

หรือความภูมิใจในตัวเองต่ำเตี้ ย ติ ดดินโดยใช่ เหตุบอกเลยว่าอย่ าไปแคร์ เริ่ด ๆ เชิ่ด ๆ

ถ้าเราบอกว่าตัวเองสวย แต่มีคนหมั่ นไ ส้นั่น เป็นปัญหาของเขาแล้วค่ะ ไม่ใช่ เรื่องของเราเด้อ

 

3. รั กษาความสะอาด มีสุขอนามัยที่ดี ให้ร่ างกาย ‘เฟรช’ เสมอ

จะทำตัวเป็นมิตร มีคนเข้าหาเยอะ ส่วนนึงที่ปฏิเสธไม่ได้ ว่าควรมีก็คือ ‘ความสะอาด และสุขอนามัยที่ดี’

คงไม่มีใครอย ากเดินมาหาคนตัวเหม็นมีขี้ ฟั น ติ ดเต็มปากกลิ่นปาก แรงรังแคเต็มหัวหรอก ฉันใดก็ฉันนั้น

เธอจึงไม่ควรปล่อยให้ตัวเองสกปรก หรือมีกลิ่นตัวโดยเด็ดข าด ใส่เสื้อผ้าสะอาด ๆ หอมน้ำย าปรับผ้านุ่ม

(หรือจะฉีดน้ำหอมเบา ๆ ก็ ไม่ติ ดแต่อย่ าเยอะเกินจะฉุนได้ !) อาบน้ำเช้าเย็นแปรง ฟั น ให้สะอาด

ใช้ไหมขัด ฟั น พ กหม ากฝรั่งห รือลูกอมดับกลิ่นปากไว้ เสมอเป็นต้น

F i r s t  I m p r e s s i o n ของผู้คนนั้น สำคัญถ้าเธอรู้จักคนคนหนึ่ง เป็นครั้งแรก

แม้ปกติเขาจะไม่ใช่ค นอนามัยจ๋าขนาดนั้น แต่ถ้าวันที่เจอกัน เขากลิ่นตัวหอมเ นื้อตัวสะอาด สะอ้าน

เธอก็จะจำเขาในภาพนั้นไปตลอด ในทางกลับกันคนที่ปกติ สะอาดสุดขั้ว แต่วันที่เจอเธอตัวเหม็นหึ่ง

ใต้วงแขนเสื้อมี คราบเธอก็จะมอง ว่าเขาเป็นคนสกปรกอยู่ดี เพราะฉะนั้น ทำตัวให้พร้อมไว้เสมอ

เพื่อให้คนมีภาพจำที่ดีว่าเธอ ตัวหอมดูสะอาดน่าเข้าใกล้เท่านี้ การหาเพื่อน ก็จะง่ายขึ้นแล้วค่ะ

 

4. ใบหน้าต้องเปื้อน ‘รอยยิ้ม’ ไว้ก่อนหน้าเป็นมิตร คนก็อย ากคุยด้วย

ข้อนี้เรียกว่ามนุษยสัมพันธ์ ขั้นพื้นฐานเลย คงไม่มีใครอย ากคุย กับคนที่ทำหน้าบึ้งตึง เหมือนคนอึ

ไม่ออกโมโหใครสักคนอยู่ตลอด เวลาหรอกมันเ สีย สุ ขภาพ จิ ต กลัวจะโดนกินหัวเอา !

ถ้าตอนนี้เธอไม่มีเพื่อนเลย ลองเช็คตัวเองดี ๆ ว่าปกติออกจากบ้า นทำหน้าแบบไหน

เจอกระจกระหว่างทาง ก็ส่องดูสักนิดบางทีเ ธออาจจะต กใจว่าตัวเอง

ทำหน้าไม่รับแขก อะไรขนาดนั้นอืมก็นั่นแหละค่ะ คำตอบ !

 

5. สมัครเรียนคอร์สอบรมหรือเข้ากลุ่ม/ชมรมสิ่งที่สนใจ

ถ้าในวงสังคมตอนนี้ ไม่สามารถหาเพื่อนใหม่ ๆ ได้อีกแล้ววนเวียนอยู่กับคนกลุ่มเดิม

หรืออาจไม่มีใครให้คุยได้เลยเรียนจบ ก็ห่างหายกันไปหมด แล้วอีกวิ ธีหนึ่งที่จะขย ายกลุ่มเพื่อน ของตัวเองได้ก็คือ

ลงเรียนคอร์สอบรมหรือเข้ากรุ๊ป ชมรมต่าง ๆ ลองนึกถึงสมัย เด็ กในโรงเรียนมัธยม

หรือมหาลัยที่มีการเข้าชมรมต่าง ๆ ที่เราสนใจ สิมันก็คือ วิ ธีหนึ่ง

ในการให้เด็ กมีเพื่อนเพิ่มนอกเหนือ จากในห้องเรียน ในคณะที่ตัวเอง อยู่นั่นเอง

ถ้ามีเงิ นและมีเวลาลงเรียนคลาส งานอดิเรกต่าง ๆ ที่สนใจ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เช่น ทำอาหารวาดรูป

แกะสลักจัดด อกไม้ ไปเรียนที่สตูดิ โอได้เจอเพื่อนร่วมคลาสที่สนใจตรงกัน

และอาจพัฒนาไปเป็นเพื่อนสนิทได้ หรือจะ ลงคอร์สอบรมออนไลน์ ที่ต้องมีงานกลุ่มกับคนอื่น ๆ

ให้ปรึกษาปัญหากัน ก็อาจนำไปสู่ การเป็นเพื่อนกัน ต่อได้ในชีวิตจริง หรือถ้าช่วงนี้

ยังไม่อย ากออกจากบ้าน แค่เข้ากรุ๊ปรวมตัวกัน ในหัวข้อที่สนใจ ในโซเชียล

เช่น กรุ๊ปในเฟซบุ๊กเข้าไปคุยเล่น บ้างตามโอกาสคอมเมนต์

ตอบโพสต์ที่สนใจบ้าง ก็มีโอกาสที่จะได้เพื่อน จากตรงนั้น ได้เช่นกันค่ะ

 

6. มีชีวิตอยู่เพื่อ ‘ชื่นชมภูมิใจในตัวเอง’ ให้มากที่สุด

สาว ๆ หลายคนอย ากป๊อบปูลาร์ อย ากให้สปอตไลท์ ส่องแสงที่ตัวเอง ตลอดเวลา กลัวที่จะต้องสูญเ สีย

ชื่อเสี ยงความโด่งดังไป จากที่เคยเป็นตัวเอง 100% ก็เริ่มเปลี่ยนตัวตน บุคลิกนิสัยทีละนิด

เพื่อให้เพอร์เฟกต์ เข้ากับค่านิยม ที่สังคมต้องการจนวันหนึ่ง ก็เคว้งคว้าง ไม่รู้แล้วว่าตัวเอง

เป็นใคร เพราะเปลี่ยนมามากเกิน กว่าจะกลับไป เป็นคนเดิมแล้ว แม้จะหลอกคนทั้งโลกได้

เธอก็หลอกตัวเองไม่ได้อยู่ดี และแน่นอนว่า ส่งผลเสี ยกับ สุ ขภาพจิตแน่ ๆ ค่ะ

เธออย ากให้มีคนมาชอบมาเป็นเพื่อน กับเธอบ้างก็จริง แต่ ก็อย่ าถึงขั้นเปิดรับใคร ก็ได้ยอมทำทุ กอย่ าง

เพื่อเอาใจทุ กคนให้มาเป็น เพื่อนเธอมีค่า และศักดิ์ศรีมากกว่านั้นไ ม่มีใครที่จะคบ กับทุ กคนบนโลกได้หรอก

เก็บไว้แค่คนที่คุยแล้ว คลิกกันมีความเห็น ไปในทางเดียวกัน ก็พอมีจุดยืนของตัวเองอ ยู่เพื่อความสุขของตัวเอง

ไม่ใช่ของคนอื่นเราสามารถ มีเพื่อนดีและไม่ต้องเสี ยตัวตนได้ไ ปพร้อม ๆ กันไม่จำเป็นต้องเลือกอย่ างใด อย่ างหนึ่งค่ะ

 

ขอบคุณที่มา : kaeyim