ความโกลาหลทางความคิด ในหัวผู้คนยุคไอที ย ากจะทำให้คิดดีได้ตลอดเวลา
หลายคนเป็นโรคทรมานใจ เพราะอยู่ดี ๆ ก็คิดไม่ดีขึ้นมาบ่อย ๆ
ก่อนอื่นต้องมองว่า ความคิดไม่ดีที่กระทบใจ ไม่ใช่ภาวะบังเอิญเกิดขึ้น แต่ต้องเกิดขึ้นโดยมีเหตุส่ง
เปรียบเหมือนกระสุนปืนไม่มีทางลอยมาจากฟ้า ต้องมาจากกระบอกปืนเท่านั้น
กระบอกปืน ที่ยิงความคิดไม่ดีใส่หัวเรา มีอยู่สามยี่ห้อ ได้แ ก่
โลภะ เหมารวมไปถึงกามราคะ
โทสะ เหมารวมไปถึงความกลัว
โมหะ เหมารวมทั้งหลงตัวและหดหู่ฟุ้งซ่าน
กระบอกปืนทั้ง ๓ ยี่ห้อนี้ สลับกันทำงานเรื่อย ๆ ไม่หยุด ฉะนั้น เมื่ออยู่ดี ๆ เกิดความคิดไม่ดีขึ้นมา ก็อย่ ามองเป็นเรื่องผิดปกติของจิต
แต่ให้มองเป็นเรื่องปกติของปืน ซึ่งธรรมชาติออกแบบให้มันยิง มันก็ยิงตามรอบตามเวลา ตามเหตุปัจจัย
สิ่งที่คุณทำได้ คือ เห็นความเจ็ บทางใจเมื่อถูกยิง ถ้าคุณไม่เปิดแผลเพิ่ม ความเ จ็บนั้นก็หายไปเองอย่ างรวดเร็ว
แต่หากคุณซ้ำเ ติมตัวเอง ด่าตัวเองตอกย้ำซ้ำซาก เพราะนึกว่าตัวเองเป็นคนสั่งยิง นึกว่าตัวเองเป็นคนบาป
ชอบคิดไม่ดีกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชอบคิดเ ลว ๆ กับผู้มีพ ระคุณ ชอบคิดชั่ วร้ ายกับลูกเขาเมียใคร
เช่นนี้ ความเจ็ บทางใจก็จะยิ่งทวีตัว กลายเป็นรอยช้ำเรื้อรังหรือกระทั่งเปิดเป็นแผล ป วดแสบป วดร้อนไม่เลิก
กรณีนี้ ถ้าจะมีสติแบบพุทธ คือมีสติรู้ว่าความคิดไม่ดีเกิดขึ้น มีสติรู้ว่าทุ กข์ทางใจเกิดขึ้น
กับทั้งมีสติรู้ด้วยว่า ทั้งความคิดไม่ดี และความทุ กข์ทางใจ ล้วนเกิดจากกิเลสดิบ
ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ไม่ใช่มโนกร รม ไม่ใช่กร รมที่จะติ ดตัวคุณไป ใจจะสบาย และค่อย ๆ หายทรม าน
กระทั่งถึงจุดหนึ่ง ที่มีสติแข็งแรงเป็นปกติ รู้จักอกุศลธรรม ณ จุดที่มันเกิด และรู้ทันว่าอกุศลธรรมนั้นเข้าครอบงำจิตไม่ได้
จิตจึงเบ่งบาน เป็นบุญชั้นสูง จากการมีสติเจริญขึ้น ในวิถีทางเห็นกายใจไม่ใช่ตัวตน
ขอบคุณที่มา : dhammasawatdee