ในวันที่เราสนุก เพื่อนความสุขมันก็มาเยี่ยม
ในวันที่เศร้า เพื่อนความทุ กข์มันก็ถามหา
ในวันที่เราจาก เพื่อนความตา ยก็มาข้างหน้า
อย่ ารังเกียจมันเลย ไม่มีใครหนีมันพ้นหรอก
ยังไงมันก็ตามหาเราเจอ มันคือเพื่อนจริง ๆ ในชีวิตเรา
ยิ้มให้กับมัน ยิ้มต้อนรับมัน
แล้วมันจะพาเพื่อนที่ชื่อว่า “สงบ” มาเป็นเพื่อนเราในทุ กช่วงเวลา
แคร์ตัวเองบ้าง อย่ าแคร์คนอื่นมากเลย
เวลาเพื่อน 3 คนนี้มาหา ทุ กคนได้แต่ปลอบใจ ไม่มีใครไล่เขาหนีไปได้หรอก
โลกนี้คือ โรงละคร มนุษย์นิกร เราท่านเกิดมา
ต้องร่ายรำทำทีท่า ไปตามลีลา ของบทละคร
บางทีก็เศร้า บางคราวก็สุข บางทีก็ทุ กข์ หัวอกสะท้อน
มีรักมีร้าง มีจากมีจร พอจบละครชีวิต ก็ลา
อันความตา ย ชายนารี หนีไม่พ้น
ถึงมีจน ก็ต้องตา ย กลายเป็นผ ี
ถึงแสนรัก ก็ต้องร้าง ห่างทันที
ไม่วันนี้ ก็วันหน้า ช้าหรือเร็ว
จะหนีไป ซ่อนอยู่ใน กลีบเมฆ กลางนภา
ซ่อนกาย า กลางสมุทร สุดวิสัย
หรือหนีไป ซ่อนกลางป่าเขา ลำเนาไพร
ณ ที่ใด ไม่ตา ย ไม่มีเลย
แม้เงิ นบาท ลูกหลานใส่ไว้ ข้างในปาก
เขาก็ยังควักออก กลืนได้ เสี ยที่ไหน
คิดขึ้นมา มันก็น่า ขมขื่นใจ
เหลือเพียงผ้า สองผืนไว้ พอปิดกาย
ทีคนเผลอ สัปเร่อ เขายังแก้
เอาผ้าม่วง ผ้าแพร ไปเร่ขาย
ต้องแต่งชุดเดียวกัน ทั้งวันเกิด และวันตา ย
ต้องไปนอน เปลือยกายอยู่ บนเชิงตะกอน
ขอบคุณที่มา : feelingdd