“ความบังเอิญ” เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง

ทำไมคนบางคน ที่น่าขยะแขยง ต้องผ่านเข้ามา ในช่วงหนึ่งของชีวิตคุณ

ทำไมคนบางคน ที่คุณอยากได้ จึงอยู่นอกวงโคจรชีวิต อะไรลิขิตให้เจอกันจัง ๆ ไม่ได้

ล้านทำไม ที่เหมือนไร้คำตอบ เมื่อถามออกมา จากความไม่พอใจชีวิต ของคนคนเดียว

ลองลืมตาดูอะไร ที่ใหญ่กว่าชีวิตคนคนเดียว เพื่อเห็นว่าคุณ

กำลังอยู่ในจักรวาลแบบไหน คำตอบอาจเกิดขึ้นในใจราง ๆ บ้าง

จักรวาลนี้ มีดวงดาวไม่รู้กี่ล้าน แต่ไม่มีสักดวง ที่ลอยอยู่โดด ๆ โดยปราศจากความเกี่ยวข้อง

อย่างน้อย ต้องส่งแรงกระทำต่อกัน ผ่านพลังลึกลับ ในจังหวะเวลาที่ใช่

ดาวบางดวง โดนหลุมดำดูดกลืน บางกาแลกซี โคจรมาชนกับอีกกาแลกซี อุกาบาตบางลูก ถูกเหวี่ยงไปกระแทกดาวเคราะห์

โลกใบนี้ มีผู้คนและสัตว์ไม่รู้กี่ล้าน ก็ไม่มีสักหนึ่งเดียว ที่เดินไปเดินมาอยู่คนเดียว โดยปราศจากความเกี่ยวข้อง กับคนหรือสัตว์

เหมือนมีแรงเหวี่ยง หรือแรงดึงดูดอยู่เบื้องหลัง ที่จงใจพาคนมาเจอกัน หลบกันไม่ได้

บางทีเจอเพื่อสัมผัสกัน บางทีเจอเพื่อกระทบกระแทกกัน บางทีเจอเพื่อกลืนกินกัน

บางคนเกิดมาตัวใหญ่ และเป็นฝ่ายกระทำ ขณะที่อีกหลายคนเกิดมาตัวเล็ก แล้วเป็นฝ่ายถูกย่ำยี

บางคนโตมา บนเส้นทางฉายแสง แห่งความเป็นที่พึ่ง ขณะที่ส่วนใหญ่โตมา บนเส้นทางฉกฉวยแบบนักเอาเปรียบ

บางคนต ายไป ในโอกาสแห่งความสำนึกผิดอยากคิดใหม่ ขณะที่ส่วนใหญ่แม้ใกล้ต าย นาทีสุดท้าย ก็ยังคงทำผิดคิดร้ายไม่เลิก

คนเราเริ่มแตกต่างกัน ตั้งแต่วิธีคิด วิธีมอง วิธีเลือกเชื่อ แล้วเอาความแตกต่างเหล่านั้น มาทำร้ายกัน หรือเกื้อกูลกัน ตามอัธยาศัยของใครของมัน

พอเห็นว่า คุณกำลังอยู่ท่ามกลาง ความแตกต่าง ที่มีแรงเหวี่ยงมาปะทะกัน หรือแรงดึงดูดมาอยู่ด้วยกัน คุณจะรู้สึกถึงความไม่บังเอิญ

นับตั้งแต่ไม่บังเอิญมาเข้าท้องใคร ไม่บังเอิญ ที่มีรูปร่างหน้าตาแบบไหน ไม่บังเอิญ ที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างไร จนกระทั่ง ไม่บังเอิญ ที่ต้องเจอใครบ้าง

ชาวพุทธ คือกลุ่มคนที่ ไม่พอใจจะเลือกเชื่อว่า ที่คนและสัตว์ต่างกันได้ขนาดนี้

เป็นฝีมือของความบังเอิญ รวมทั้งไม่เห็นด้วยว่า เป็นความอยุติธรรม ของพระพรหมผู้สร้าง

ชาวพุทธ คือกลุ่มคนที่พอใจจะศรัทธา ในผู้รู้เช่นพระพุทธเจ้า ผู้ประกาศว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามก รรม

รวมทั้งไม่หยุดอยู่แค่ความเชื่อ แต่แสวงวิธีพิสูจน์ความจริง ระหว่างที่ยังมีชีวิต เพื่อไม่ต้องก้าวผิดกันต่อ

ขอบคุณที่มา : ธ ร ร ม ส วั ส ดี