นานมาแล้ว มีซากช้างลอยไปตามกระแสน้ำ กาตัวหนึ่งพบเข้าก็ดีใจ คิดว่าตนเป็นผู้โ ชคดี
เพราะจะได้อาหารกินฟรี โดยไม่ต้องออกแรงไปอีกนาน จึงโผลงจับที่ซากช้างนั้น จิกกินเนื้ อช้างที่เน่าเปื่อย
อิ่มแล้วก็หลับอยู่บนซากช้างนั้นเอง ตื่นขึ้นก็กินอีก กิน ๆ นอน ๆ อยู่กับซากช้างนั้นอย่ างมีความสุข
นานวันเข้ากระแสน้ำ ก็ไหลออกสู่ทะเล ซากช้างก็พลอยไกลฝั่งออกไปเรื่อย ๆ จนถึงกลางมหาสมุทร
พอซากช้างเปื่อยเน่าสิ้นไป กาก็มองไม่เห็นฝั่งเสี ยแล้ว ถึงจะพย าย ามบินกลับอย่ างไร
ก็ไม่สามารถพ้นจากมหาสมุทรได้ จึงหมดแรงจมน้ำ ต า ย
ในที่สุดในทางธรรม ซากช้างที่ลอยไปตามกระแสน้ำนั้น ท่านเปรียบเหมือนกามคุณ ๕
ได้แ ก่ รูป เ สียง กลิ่น รส และสัมผัสที่น่าพอใจ ทำให้เกิดสุข
ซึ่งเป็นเรื่องที่ปุถุชนมุ่งแสวงหา เพราะที่มนุษย์ต้องการเงิ นท องข้าวของอาหารการกินหรือที่อยู่อาศัย
ก็เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือให้ชีวิต เข้าถึงรูป เ สียง กลิ่น รส และสัมผัสที่ทำให้เกิดสุขทั้งสิ้น
ไม่นับวัตถุสิ่งของ เครื่องปรนเปรอความสุขส่วนเกิน ที่มีอยู่อีกกลาดเกลื่อนมากมาย
กามคุณ ๕ จึงเป็นของคู่กับชีวิตมนุษย์โดยเฉพาะมนุษย์ปุถุชนด้วยแล้ว ก็เปรียบเหมือนอาหารที่จำเป็นกับชีวิตนั่นแหละ
ข้อควรระวั งในเรื่องนี้ก็คือ แม้ต้องมีกามคุณเป็นอาหารของชีวิต แต่ไม่ควรหลงใหลเผลอสติ
ต้องนึกไว้เสมอว่า ชีวิตที่ผูกพันกับกามคุณ ก็เหมือนการอยู่บนซากช้าง ที่ลอยไกลออกไปทุ กที
แล้วฝึกคิดให้เห็นด้านที่เป็นโ ทษ ของกามคุณเ สียบ้าง ยินดีในความสุขเหล่านั้นแต่พอประมาณ
จึงจะไม่ต้องพบชะตาก รรมเหมือนกาหลงซากตัวนั้นเชื่อมั่นใน ศรัทธา
ขอบคุณที่มา : dhammasawatdee