คนจะเป็นทุ กข์ ให้ชะตานอกตัวดียังไง ความคิดภายใน ก็หาทางเป็นทุ กข์ จนได้คนจะเป็นสุข
ให้ชะตานอกตัวร้ าย ยังไงความคิดภายใน ก็หาทางเป็นสุขได้วันยังค่ำ
โลกทั้งใบ เริ่มจากมโนก รรม ที่คุณเลือกคิดมาก คือ ไม่ต้องคิดก็คิด หรือคิดจบไปแล้ว
ก็วนกลับมาคิดอีก ความคิดถึงเรื่องมักใหญ่โต กว่าเรื่องเสมอ
ยิ่งคิดมากเท่าไร จะยิ่งมโนไปเองมากขึ้นเท่านั้น แทบจะกล่าวได้ว่าอาการคิดมาก
คือคิดไปเองเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ที่อิงความจริง
ความคิดสงส ารตัวเอง ใกล้กันมากกับการสร้างภาพร้ าย ๆ ขึ้นมาเอง
บดบังภาพดี ๆ ที่มีอยู่จริงหรือกีดกันภาพดี ๆ ไม่ให้เกิดขึ้นได้จริง
แค่ยอมรับตามจริงว่า กำลังฟุ้งซ่านอยู่ คิดอะไรเกินตัวอยู่
แค่นี้ใจจะเย็นลงนิดหนึ่งแล้วแค่รู้สึกถึงอาการ ดิ้นรนพลุ่งพล่านที่เกิดขึ้นในใจ
แล้วเห็นว่านั่นคือต้นตอ ให้จิต กระเพื่อม เพิ่มความระส่ำระสาย เพิ่มระดับความทุ กข์ทันทีทันใด
ที่เห็นเข้ามาข้างใน จริง ๆ นั้นเอง ทุ กข์เก่าจะทุเลาลง
พอความฟุ้งซ่านระลอกใหม่ ผุดขึ้นมาอีกครั้ง จะรู้สึกแล้วว่านี้ เป็นของที่จรมาชั่ วคราว
ไม่ใช่ความคิดของเราแท้ ๆ สักหน่อย เป็นอะไรที่ดับไปแล้ว แล้วเดี๋ยวก็กลับมาใหม่
จากความเย็น กลายเป็นความร้อน จากความสงบ กลายเป็นความปั่นป่วน
ยิ่งเห็นเช่นนั้นบ่อยขึ้นเท่าไร คุณจะยิ่งรู้สึกว่าชีวิตไม่มีอะไรเลย
นอกจากถูกล่อให้ทุ กข์เรื่องหนึ่ง แล้วโดนหลอกซ้ำให้ทำเหตุแห่งทุ กข์ เพิ่มเติมเข้าไปอีก
ใจเป็นใหญ่ใจเป็นประธาน แม้ชะตาที่น่าสงส ารจะมีจริง ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นทุ กข์
หากไม่มีความคิดสงส ารตัวเอง ให้ต้องเป็นทุ กข์เกินจริง อย ากหนีโลก
ที่แท้บางทีแค่อย ากหนีวิ ธีคิด หรือโลกความคิดตลอด 24 ชั่ วโมงของตัวเอง
จริงจังกับการฝึกสติ ให้เกิดขึ้นในวันนี้ มีสิทธิ์สร้างคุณภาพทางใจขึ้นมาจริง ๆ เดี๋ยวนี้เลยไม่ต้องรอพิสูจน์วันไหน
dhammasawatdee