เชื่อว่าในชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คนนั้นต้องพบเจอกับผู้คนมากมาย ถามว่าผู้คนเหล่านั้นน่าเชื่อถือหรือไม่
ขอตอบว่า ไม่เลย เนื่องจาก ยังไม่เคยคุยกัน ไม่ใช่คนในครอบครัว แล้วจะให้ไปเชื่อถือเลย มันก็ไม่ได้
ยอมรับเลยว่า ปัจจุบันนี้ ทุ กคนต้องใส่หน้ากากหมด ไม่ด้วยความจำเป็นก็ด้วยความตั้งใจ
ถามว่าแบบไหนมีมากกว่ากัน ขอตอบว่า มีเท่า ๆ กัน แต่ว่าคนเราถ้าใส่ก็ต้องมีการถอดออกด้วย
ไม่ใช่ใส่ตลอดเวลา มันไม่ได้ ต้องมีการใช้หน้าจริงของตนเองได้
“สังคมทุ กวันนี้มีแต่การหลอกลวง คนดีนั้นผิด…คนชั่ วกลับลอยนวล
ความดีเลือนหายไปความชั่ วร้ ายก้าวเข้ามาแทน ทำตัวเสแสร้ง….ซ่อนอยู่ในสังคม”
“หน้ากากที่แสนดีปกปิดเงื่อนซ่อนงำไว้… ลึก ๆ ข้างในคือ สั ต ว์ ร้ า ย ที่โสมม”
“ได้แต่มอง..ได้แต่ลุ้นให้คนอื่นเขาล้ ม ได้แต่คิดภาวนาให้คนอื่นเขาล่ มจม..
นี่ล่ะหนาความระยำของมนุษย์ชน มันช่างวกวนซับซ้อนเงื่อนงำ..
แต่คนที่ไม่ขำมันก็คือพวกเรา เพราะเราน่ะรู้ว่าใต้หน้ากากใบนี้น่ะ..มันไม่จริง”
นี่เป็นหนึ่งในถ้อยคำของผู้สร้างสรรค์งานเพลงนิรนามที่ขับขาน
บอกกล่าวและเ สียดสีประชดประชันสังคมที่กำลังฟอนเฟะในปัจจุบัน สังคมที่มนุษย์ชนทุ กห มู่เหล่า
กำลังหันหน้ากากสีสันสวยงาม และรอยยิ้มสดใสที่ประดับประดาไปด้วยสิ่งจอมปลอมที่ถูกเรียกกันว่า “คุณธรรม”
ขอบคุณที่มา : parinyacheewit