ชายชราคนหนึ่งมักจะไปซื้อหนังสือพิมพ์จากร้านประจำ พนักงานร้านนี้มักแสดงสีหน้าจองหองและดูหมิ่นเขาเสมอ
เพื่อนของเขาถามด้วยความไม่เข้าใจว่า “ทำไมนายไม่ไปซื้อร้านอื่น จะไปซื้อทำไมวะร้านนี้ เด็ กพวกนี้ท่าทางมันยโสสิ้นดี”
ชายชราหัวเราะและตอบว่า “จะไปถือสาหาความเด็ กมันทำไม ? หากฉันทำตามที่นายว่า
ฉันต้องเสี ยเวลาเดินอ้อมไปหลายซอยเลยนะ ถึงจะซื้อหนังสือพิมพ์ได้ เราจะทำให้มันยุ่งย ากไปทำไม ?
จะว่าไป ที่เด็ กร้านนี้ไม่มีมารย าท มันก็เรื่องของเด็ กมัน ข้าจะต้องอ ารมณ์บูดตามเด็ กพวกนี้ด้วยเหรอ
ฉันถามแกหน่อยมันคุ้มไหม ? ฉันไปซื้อหนังสือพิมพ์นะ ฉันไม่ได้ไปดูหน้าเด็ กนั่น!”
ในใจของทุ กคนมีกุญแจแห่งความสุขอยู่คนละด อก แต่เรามักเอากุญแจแห่งความสุขนั้นไปฝากไว้ในมือของคนอื่น
แม่บ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ฉันไม่มีความสุขเลย เพราะสามีฉันต้องไปประชุมต่างจังหวัดบ่อย ๆ เขาไม่ค่อยอยู่บ้าน”
เธอเอากุญแจแห่งความสุขใส่ไว้ในมือของสามี
คุณแม่คนหนึ่งเอ่ยว่า “ลูกของฉันไม่เคยชื่อฟังฉันเลย มันทำให้ฉันโมโหอยู่เสมอ” นางเอากุญแจแห่งความสุขใส่ไว้ในมือของลูก ๆ
ผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “เจ้านายไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา ทำให้ผมกลายเป็นคนโมโหร้ าย”
เขาฝากกุญแจแห่งความสุขไว้ในมือของเถ้าแ ก่
แม่ผัวกล่าวว่า “ลูกสะใภ้ของฉันไม่กตัญญู ฉันช่างโ ชคร้ ายอะไรอย่ างนี้” นางฝากกุญแจแห่งความสุขไว้ที่ลูกสะใภ้
เรามักจะกล่าวโ ทษว่าคนอื่นทำให้เราไม่มีความสุข แต่ความเป็นจริงแล้วเรานั่นแหละที่ “เอาความสุขไปฝากไว้ที่คนอื่น”
ตอนนี้กุญแจแห่งความสุขของคุณอยู่ที่ไหน ? อยู่ในมือของคนอื่นหรือเปล่า ? เอามันกลับคืนมาไว้ในมือของตัวเองเถอะ
แหล่งที่มา : นุสนธิ์บุคส์
ขอบคุณ : aansanook