Home ข้อคิดดีๆ “เตี่ยสอนอาหมวย” เขียนได้กินใจ สอนใจได้ดีมาก ๆ

“เตี่ยสอนอาหมวย” เขียนได้กินใจ สอนใจได้ดีมาก ๆ

38 second read
ปิดความเห็น บน “เตี่ยสอนอาหมวย” เขียนได้กินใจ สอนใจได้ดีมาก ๆ
0
614
เรื่องราวสอนใจ “เตี่ยสอนอาหมวย”

 

เตี่ยกับอาหมวย เดินจากตลาดมาถึงบ้าน ก็พอดีฝนเทลงมา

สองพ่อลูกหันมายิ้มด้วยกัน เหมือนกับจะบอกว่า “เรารอดแล้ว” รอดจากการเปียกฝน

 

อาหมวยหิ้วตะกร้าตรงเข้าครัว จัดการล้างผักให้เตี่ย โดยมีเตี่ยเป็นผู้กำกับ

“ผักมี ดินติ ดอยู่ ต้องล้างผ่ านน้ำก่อน แล้วค่อยลงแช่น้ำผสมด่างทับทิมนะ”

 

“ค่ะเตี่ย เตี่ยบอกทุ กครั้ง อั๊วจำได้”

 

“เอาน่า เตี่ยยังอยู่เตื อน ลื้อก็รับฟังเอาไว้ วันหนึ่งข้างหน้า เ สียงของเตี่ยก็ไม่มีแล้ว”

 

อาหมวยหยุดมือ มองหน้าเตี่ย “เตี่ย เตี่ยพูดแบบนี้อีกแล้ว อั๊วไม่ชอบฟัง”

 

เตี่ยไม่ตอบอะไร แค่อมยิ้ม มือยังคงล้างซี่โครงห มูผ่ านน้ำ

 

“ซี่โครงห มูนี่นะ ต้องล้างผ่ านน้ำ เอามือถูให้ทั่ว ๆ เอาสิ่งสกปรกออก แล้วก็ซับให้แห้ง แบบนี้”

 

เตี่ยวางซี่โครงลงบนเขียงที่มีผ้าสะอาดปูบนหน้าเขียง จับชายผ้าทั้งซ้ายและขวา

ขึ้นมาซับน้ำออกจากซี่โครงห มู จากนั้นดึงผ้าออก แล้วจึงสับให้พอดีคำ

 

 

“ทำไมต้องซับด้วยผ้าคะ ประเดี๋ยวลงหม้อ ก็เปียกอยู่ดี” อาหมวยถามด้วยความสงสัย

 

“ถ้าเปียก เวลาสับ น้ำจะกระเด็น เปรอะเปื้อนเสื้อผ้า ยังไงล่ะ”

เตี่ยหยิบซี่โครงห มูที่สับแล้ว ใส่ลงหม้อทีละชิ้น ปากก็พูดว่า

 

“ปัญหาแต่ละอย่ าง มันมีวิ ธีแก้ไขที่ไม่เหมือนกัน แต่ความรุ นแรงของปัญหา

จะเบาบางลง หากเราใช้วิ ธีที่นุ่มนวล เหมือนการที่เราเอาผ้าซับน้ำ

ต่อให้ปังตอสับแรงแค่ไหน น้ำและเลือ ดจากซี่โครง ก็ไม่กระเด็นมาโดนเรา จริงไหม.. ”

 

อาหมวยยิ้ม แล้วพยักหน้า ตอนนั้น ยิ้มเพราะไม่เข้าใจ ยิ้มไปอย่ างนั้น แต่เมื่อวันเวลาผ่ านไป

นึกถึงทีไร ก็ยิ้ม ยิ้มให้กับความคิดแยบยลของเตี่ย ที่สั่งสอนธรรมะให้ลูก ผ่ านการทำอาหาร

 

เตี่ยค่อย ๆ หยิบผักแต่ละชนิดจากกะละมังน้ำผสมด่างทับทิม ที่แช่ผักเอาไว้

นำขึ้นมาล้างอย่ างเบามือ ทีละชนิด แล้ววางลงบนตะกร้า เพื่อสะเด็ดน้ำ

 

ต่อจากนั้น เตี่ยบรรจงหั่ นผักแต่ละชนิด ที่ต้องใช้คำว่าบรรจง เพราะเตี่ยบรรจงจริง ๆ

การทำอาหารของเตี่ย ดูแล้วเหมือนงานศิลปะ นุ่มนวล เนิบนาบ ตามนิสัยเตี่ย

 

“ใส่ซี่โครงห มูลงไป แล้วเติมน้ำสักครึ่งหม้อ ยกไปตั้งบนเตาให้เตี่ยที” อาหมวยทำตามที่เตี่ยสั่ง

 

“ตั้งไฟแรงก่อน คอยดูไว้นะ พอเดือดต้องเบาไฟ แล้วช้อนฟองออกทิ้ง จากนั้นก็แง้มฝา

ความร้อนจะได้ระอุอยู่ในหม้อ ปล่อยให้เคี่ยวไปเรื่อย ๆ ความหวานจากซี่โครงห มูจะค่อย ๆ ออกมา”

 

“บางสิ่ง บางอย่ าง ต้องรอเวลา อย่ ารีบร้อน มันถึงจะหอมหวาน” เตี่ยพูดเบา ๆ เหมือนรำพึงกับตัวเอง

มือยังคงหั่ นผักไปเรื่อย ๆ เวลาผ่ านไป ผักทั้งหมดนอนอ วดตัวอยู่ในถาด

 

หัวไชเท้าแยกอยู่ในตะกร้า “เอาไชเท้านี่ หย่อนลงหม้อก่อน ไชเท้าเนื้ อแน่น หนา สุกย าก ต้องใส่ก่อน”

 

“ค่ะ เตี่ย” แต่อาหมวยก็เผลอเทพรวดลงทั้งตะกร้า น้ำซุปร้อน ๆ

กระเด็นโดนแขนหลายที่ รีบวางตะกร้าเอามือลูบแขนให้คลายร้อน

 

เตี่ยยืนมองแล้วยิ้ม พูดเบา ๆ ว่า “เพิ่งสอนไปหยก ๆ ว่าความรุ นแรงมักก่อปัญหา

ความเดื อดร้อน เข็ดไหม อาหมวย” อาหมวยพยักหน้าที่งอหงิกเพราะความร้อน

 

เตี่ยยกกระทะมาตั้งบนเตาไฟอีกเตา ตักน้ำมันห มูใส่ ตามด้วยกระเทียมสับ

 

“นี่เป็นก้านผักคะน้า และกวางตุ้ง ต้องแยกจากใบ เพราะก้านแข็งกว่าใบ หั่ นแล้วต้องแยกไว้

ก้านใส่ก่อน ใบใส่ทีหลัง ส่วนกะหล่ำปลีเตี่ยฝานให้ติ ดใจผัก จะได้ไม่แยกออกจากกัน

 

เดี๋ยวต้องเอามานาบกับกระทะ ใส่น้ำมันนิดหน่อย สีจะสวยน่ากิน และไม่เหม็นเขียว

ส่วนขึ้นช่ายนั่นหั่ นเอาไว้ ใส่หลังสุด เพราะสุกง่ายที่สุด”

 

เตี่ยใช้มือทำงานไป พร้อมกับใช้คำพูดสอนลูกไป

“ทำไมต้องแยกคะ เดี๋ยวก็ลงหม้อเดียวกัน” อาหมวยถามด้วยความสงสัย

 

“ใช่ ใส่พร้อมกันได้ เป็นวิถีของคนชุ่ย ๆ ที่แปลว่า มักง่ายยังไงล่ะ

ลื้ออย ากเป็นคนมักง่ายหรือไม่” อาหมวยส่ายหน้า

 

คำว่าชุ่ย คำว่ามักง่าย อาหมวยว่าเป็นคำด่ าที่รุ นแรง

มันหมายถึงคนที่ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน หรือคนที่ไม่รับฟังคำสั่งสอน

 

เมื่อโตเข้าวัยทำงาน หากใครถูกอาหมวยตำหนิว่า มักง่าย นั่นหมายถึงรุ นแรงแล้ว

 

ผ่ านไปหนึ่งชั่ วโมง “เตี่ย กินได้หรือยังคะ อั๊วอย ากกินแล้ว”

 

“กินได้ แต่ยังไม่อร่อย ยังไม่ถึงเวลาของมัน อดทนไหม ถ้าอดทน ก็จะได้กินของอร่อย”

อาหมวยพยักหน้า ใคร ๆ ก็อย ากกินของอร่อยทั้งนั้น

 

บ่ายคล้อยแล้ว ตอนนี้จับฉ่ายของเตี่ย ปรุงเสร็จแล้ว เตี่ยปรุงรสเพียงเติมด อกเกลือเล็กน้อย

ใช้เวลาเคี่ยวจนความหวานของผักเผยตัวออกมา

 

รสชาติอ่อน ๆ ผักทุ กชนิดเปื่อยนุ่ม เท่า ๆ กัน ละมุนลิ้น ละมุนคอ นี่กระมังที่เค้าเรียกว่า “นวลลิ้น”

 

 

เตี่ยนั่งลงตรงข้ามอาหมวย เอ่ยถามว่า “อร่อยไหม อาหมวย” อาหมวยเงยหน้าจากชามข้าว

ใช้ตะเกียบคีบกะหล่ำปลีใส่ในชามข้าวของเตี่ย แล้วตอบ

 

“ที่สุดค่ะเตี่ย ผักทุ กอย่ างนุ่มกำลังดีค่ะ”

 

“นุ่มเท่า ๆ กันด้วย ใช่ไหม”

 

“ค่ะ”

 

เตี่ยวางตะเกียบลงบนปากชามข้าว ก่อนจะเอ่ยว่า

 

“การทำอาหาร ก็เหมือนการใช้ชีวิต แต่ละช่วงวัยก็ทำหน้าที่ตามวัย ไม่ก้าวข้าม ไม่ต้องรีบโต

ค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ เรียนรู้ จากการดู การฟังตามจังหวะของชีวิต ไม่ก้าวกระโดด เติบโตตามวัยนั้น

 

รับผิดชอบในหน้าที่ตนให้ดีที่สุด รู้จักคิด รู้จักลำดับความสำคัญ อะไรควรทำก่อน อะไรควรทำทีหลัง

เป็นการสร้างวินัยในการดำเนินชีวิต อะไรก็ตาม ที่ถูกที่ ถูกเวลา สิ่งนั้นจะสมบูรณ์ งดงามเสมอ”

 

“ค่ะ เตี่ย”

 

เตี่ยทิ้งท้ายอีกว่า “สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรฝึกให้ลูก คือระเบียบวินัย ความอดทน ต้องฝึก ต้องปลูกฝังกันให้เป็นนิสัย

เพราะเป็นย าขนานเอก ที่จะปกป้องลูก ไม่ให้เป็นคน มักง่าย โกรธง่าย”

 

ขอบคุณที่มา : d h a m m a s a w a t d e e

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In ข้อคิดดีๆ
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …