คนเราเกิดมาก็ต้องประสบพบเจอกับกองทุ กข์มากมายมหาศาล ธรรมะ คำสอนของพ ระพุทธองค์
จึงสอนให้ทุ กชีวิตเข้าใจ และอยู่ร่วมกับทุ กข์ เมื่อละวางใจได้ ก็จะทุ กข์น้อย
จนรู้สึก ๆ เฉย ๆ กับทั้งทุ กข์และสุขที่ผ่ านเข้ามา พ ระนักปฏิบัติ ครูบาท่านทั้งหลาย ท่านเห็นถึงเหตุและผลตรงนี้
จึงอย ากตัดจากกองทุ กข์ทั้งมวล ต้นเหตุแห่งทุ กข์ คือ การตัดไฟแต่ต้น นั่นคือ ไม่ต้องเกิด ก็ไม่ทุ กข์อีก
โกรธ โมโห อาฆ าต มาดร้ ายใคร ก็อโหสิก รรมเขา ใครทำให้เจ็ บช้ำน้ำใจ เบียดเบียนชีวิตเรา
และคนที่เรารัก ก็ไม่คิดแก้แค้นเอาคืนความโกรธ ไม่ใช่โ ง่หรอก เพียงแต่ท่านทั้งหลายเหล่านั้น
ไม่เห็นประโยชน์อันใดที่จะตามแก้แค้นเอาคืน เพื่อให้ได้ความสะใจเพียงชั่ วครู่
แต่ต้องเวียนว่ายในวัฏจักรนั้นย าวนาน เกิดใหม่ก็ต้องเจอคนเหล่านั้นซ้ำ ๆ ไม่เขาชดใช้เรา เราก็ต้องชดใช้เขา
เวลาที่เราทุ กข์ ท่านทั้งหลายยังไม่เรียนรู้บทเรียนนั้นอีกหรือ ว่ามันทุ กข์ท รมาน เจ็ บป วดเพียงใด
ยังอย ากเจอ อย ากเจ็ บ อย ากทุรนทุ รายซ้ำ ๆ วนเวียนไม่จบสิ้นอีกทำไม
คนเราเกิดมาเพื่อชดใช้ก รรมที่ทำ ทุ กเหตุในชีวิตไม่มีความบังเอิญ
มีแต่ถูกกำหนดด้วยผลของก รรม ที่เกิดจากการกระทำของเราทั้งนั้น
เมื่อบุญมาก บุญก็จะช่วยนำพาเราให้ห่างความทุ กข์ แต่เมื่อความทุ กข์ไล่หลังมาทัน
เราต่างก็ต้องชดใช้ทุ กคน วางลงเถอะหนา ใจที่ยึดมั่นถือมั่น ไม่ยอมปล่อยไม่ยอมวาง
จะแบกให้หนักถือให้เหนื่อยอยู่ทำไม หนทางหลุดพ้น คือ ธรรมะ
คำสอนของพ ระพุทธองค์อยู่ตรงหน้าแล้ว ถามตัวเองเถิด
อย ากหลุดพ้นจากกองทุ กข์ที่เราขุดฝังตัวเองไหม
ขอบคุณที่มา : ธ ร ร ม ะ ส วั ส ดี