คำถามที่ 1 การใส่ร้ าย หรือ การว่าร้ ายเป็นการนำเรื่องไม่ดีที่ไม่จริง เกี่ยวข้องกับบุคคลอื่นมาพูดให้บุคคลอื่นรับทราบ
เป็นเรื่องที่ผิดศีลแน่นอน เพราะเป็นการพูดเท็จ ก็เป็นก รรมที่ผู้พูดได้กระทำด้วยความตั้งใจ จงใจ
ผู้ที่ถูกใส่ร้ าย หรือ ว่าร้ าย ก็ได้รับวิบาก ใช่ไหมครับ แต่ถ้าผู้ถูกใส่ร้ าย ไม่ทุ กข์ใจ หรือเกิดความเดื อดร้อนใด ๆ
หรือไม่ได้รับรู้กับเรื่องที่ถูกใส่ร้ าย แสดงว่าไม่ได้รับวิบากใช่ไหมครับ ?
ตอบ ก รรมของใครก็ของคนนั้น จิตของใครก็ของคนนั้น การมีเจตนาด่า ว่าร้ ายบุคคลอื่น
เจตนาของผู้ว่าร้ ายมีแล้ว และก็ว่าร้ าย กร รมนั้นสำเร็จจากตัวผู้กระทำเอง ก็เป็นอันผิดศีล
ส่วนการที่คนที่ถูกว่าร้ าย จะเดื อดร้อนหรือไม่นั้นก็เป็นอกุศลจิต หรือกุศลจิตของบุคคลที่ถูกว่าร้ ายเอง
ไม่เกี่ยวกับก รรมของผู้ที่ว่าร้ าย ที่ทำสำเร็จแล้วครับ
ดังเช่น พ ระโกก าลิกะ ไปว่าร้ ายพ ระอัครสาวกทั้งสอง คือ พ ระส ารีบุตร พ ระมหาโมคคัลลานะ
ท่านเป็นพ ระอรหันต์ ย่อมไม่เดื อดร้อนเกิด อกุศลเลย แต่พ ระโกก าลิกะ ก็ได้ทำก รรมสำเร็จ
ว่าร้ ายท่านแล้ว ก รรมก็ให้ผล เพราะการผิดศีลครับ
คำถามที่ 2 การนินทา เป็นการนำเรื่องจริง ที่ไม่ดีของบุคคลอื่นมาพูดใช่ไหมครับ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือไม่
ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ไม่ผิดศีลใช่ไหมครับ ?
ตอบ การนินทา คือ พูดเรื่องของคนอื่น ทั้งที่เป็นเรื่องจริง หรือเรื่องไม่จริงก็ได้ แต่การจะผิดศีลหรือไม่นั้นก็ต้องพิจารณา
ถ้าพูดเรื่องไม่จริง เจตนาโกหกให้ผู้อื่นรับทราบในเรื่องของคนอื่น ก็ผิดศีลข้อมุสา แต่กล่าวเรื่องจริงด้วยมีเจตนาส่อเ สียด
ให้คนที่รับฟังไม่ชอบคนนั้น เป็นต้น การกล่าวเรื่องจริงแบบนั้นเป็นอกุศลก รรมบถ ล่วงการพูดส่อเสี ยด ครับ
คำถามที่ 3 ในกรณีที่ผู้ใส่ร้ ายนำเรื่องไม่จริงไปพูด โดยคิดว่าเป็นเรื่องจริง ผู้ที่นำไปพูดต่อ ผิดศีลข้อพูดเท็จหรือไม่
ในสังคมออนไลน์มีการแชร์เรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องธรรมะ เรื่องการเมือง เรื่องสุ ขภาพ มากมายหลายเรื่อง
บางเรื่องก็ไม่จริงไม่ถูกต้อง ไม่ทราบเข้าข่ายผิดศีลข้อ กล่าวคำเท็จไหมครับ ?
ตอบ การพูดเท็จ จะล่วงศีลข้อมุสา จะต้องดูองค์ของข้อนี้ ซึ่งผู้พูดจะต้องรู้ว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ไม่จริง
แล้วมีเจตนาโกหก ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าเรื่องนั้นไม่จริง จึงชื่อว่า เป็นการกล่าวมุสาวาท แต่ถ้าไม่รู้ว่าเรื่องนั้นไม่จริง
สำคัญว่า เรื่องที่แชร์ไป ก็ไม่ผิดศีลข้อมุสาวาทแต่อย่ างใด
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ไม่พ้นไปจากอกุศล เพราะในขณะนั้นจิตเป็นอกุศล พูดถึงเรื่องของบุคคลอื่นว่า เป็นอย่ างนั้น อย่ างนี้
ซึ่งไม่เป็นไปกับด้วยประโยชน์เลยแม้แต่น้อย
เรื่องที่ควรพูดมีมากมายที่เป็นประโยชน์ แล้วไม่พูด เพราะถูกอกุศลครอบงำในขณะนั้น
ซึ่งจะแต กต่างไปจากขณะที่เป็นกุศลอย่ างแน่นอน ถ้าเป็นคำไม่จริง ก็ผิดศีลข้อพูดเท็จ
ว่าร้ าย กล่าวร้ าย ให้ร้ าย เป็นอกุศลจิตที่เกิดขึ้น ยิ่งถ้าคำพูดส่อเ สียดเพื่อให้ผู้อื่นแต กแยกกัน
หรือ คำพูดส่อเ สียดเพื่อมุ่งที่จะทำให้ตนเป็นที่รัก เป็นที่ไว้วางใจนั้น เป็นวจีทุจริต เป็นอกุศลก รรมบถ
เมื่อถึงคราวให้ผลอย่ างหนัก ย่อมทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ อย่ างเบาเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์
ย่อมทำให้แต กจากมิตร คบกับใครไม่นานก็แต กแยกกัน
โดยมูลแล้ว การพูดส่อเ สียด เกิดจากโ ลภะ ความโ ลภ ติ ดข้องยินดี พอใจ
บ้างเกิดจากโทสะ ความโกรธ ความไม่พอใจบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่อย่ างแท้จริง
ผู้ถูกว่าร้ าย เป็นการได้รับผลของก รรมที่ตนเองได้กระทำแล้ว แต่ถ้าเกิดความทุ กข์ใจเ สียใจ
ก็เป็นการสะสมอกุศลเป็นของตนเอง ความเข้าใจพ ระธรรมเท่านั้น ที่จะทำให้บุคคลนั้นมีความเข้าใจสภาพธรรม
ตามความเป็นจริงและคลายความทุ กข์ใจลงได้ ตามกำลังปัญญาของตน
ก็ควรที่จะมีการพิจารณาใคร่ครวญก่อนว่า เป็นจริงอย่ างนั้นหรือไม่ ก่อนที่จะส่งต่อ
เพราะถ้าส่งเรื่องที่ไม่จริง ให้กับคนอื่น ก็ไม่เป็นประโยชน์เลย แม้แต่ในเรื่องของธรรม ก็ต้องเป็นเรื่องของธรรม
ซึ่งเป็นการกล่าวถึงสิ่งที่มีจริง ๆ เท่านั้นครับ ขออนุโมทนา
ขอบคุณที่มา : d h a m m a s a w a t d e e