1. ปล่อยได้วางได้
เมื่อมีบุญแล้วผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพ
ให้เป็นคนที่รู้จักการวาง ตามกำลังของบุญฤทธิ์
ไม่เป็นคนที่แบกทุ กอย่ างที่ขวางหน้ายึดทุ กอย่ างที่เกิดขึ้น
2. สงบได้เย็นได้
เมื่อมีบุญแล้วผลแห่งบุญนั้นก็จะเป็นสภาพ
ให้เป็นคนที่สงบได้เย็นได้ ตามกำลังของบุญฤทธิ์
ไม่เป็นคนที่ร้อนรนกระวนกระวาย สับส่ายวุ่นวาย
ในสิ่งที่ไม่เป็นส า ร ะในสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น
แม้จะต กอยู่ในเหตุการณ์ที่ เ ล ว ร้ า ย
ก็ทำใจได้เหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น
3. ไม่เป็นคนคิดมาก
เมื่อมีบุญแล้วผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นความสะอาด
ความสว่างความสงบตามกำลังของบุญฤทธิ์ทำให้เกิดพลัง
แห่งความสงบแห่งจิตแห่งใจไม่ฟุ้งซ่านรำค าญใจไม่คิดเป็นทุ กข์ความคิด
ทุ กความคิดล้วนนำมาซึ่งความเบิกบานกายใจไม่คิดเบิกความทุ กข์มาใช้ก่อน
4. ไม่คิดทำชั่ ว
เมื่อมีบุญแล้วผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นตัวควบคุม บริหารจัดการ
ตามกำลังของบุญฤทธิ์ ทำให้เกิดความกลัว
ความละอาย ต่อบ า ปต่อก ร ร ม ความ ผิ ด น้อยใหญ่
ทั้งในที่ลับ และที่แจ้งเห็น ถึงความเ สี ย ห า ยหลายภพหลายชาติ เห็นถึงผลกระทบ
ต่อครอบครัวต่อโลกต่อสังคม อย่ างมากมายมหาศาล
5. รอได้คอยได้
เมื่อมีบุญแล้วผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพ
ให้เป็นความใจเย็น มีความยืดหยุ่นตามกำลัง
ของบุญฤทธิ์ไม่ใจร้อนใจเร็วเห็นถึงจังหวะและโอ กาสของชีวิต
6. ไม่จำเป็นต้องบ่น
เมื่อมีบุญแล้วผลแห่งบุญนั้นก็จะแปรสภาพให้เป็นปัญญา
ทำให้ยอมรับต่อความเป็นจริงของชีวิต ทำให้รู้เห็นและเข้าใจถึงระดับวาสนา
ของตนและบุคคลอื่น ความเป็นไปของชีวิตนั้นขึ้น ตรงต่ออำนาจบุญก ร ร ม ที่ทำไว้
บ่นไปก็แค่นั้นเอง ที่ได้มาที่มีอยู่ที่ เ สี ยใจที่ไม่ได้ดั่งใจ
ทุ กสิ่งทุ กอย่ างนั้นมันคือ ผลแห่งก ร ร ม อันเป็นสมบัติของเราเอง
ขอบคุณที่มา : ยื น ยิ้ ม