1. สำหรับชีวิตที่เรียบง่ายนั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้ง่ายสมชื่อ ใช่ว่าใคร ๆ จะมีชีวิตอันแสนสุขสบาย
ใช่ว่าใคร ๆ จะมีชีวิตที่เรียบง่ายได้ง่าย ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับความร วยหรือความจนไม่ได้เกี่ยวกับการศึกษา
ไม่ได้เกี่ยวกับฐานะทางสังคม ไม่เกี่ยวกับเพ ศหรืออายุ แต่เกี่ยวข้องกับวุฒิปัญญาของบุคคลคนนั้น
เพราะชีวิตที่เรียบง่ายก็คือชีวิตที่ผ่ านการต กผลึกมาแล้วเป็นอย่ างดี อะไรคือความสุขที่แท้จริง
อะไรคือความสุขจอมปลอม ตรงนี้เราย่อมรู้ดีอยู่แ ก่ใจ ถ้ามีปัญญามากพอก็จะมีชีวิตที่เรียบง่ายได้ในทันที
ถ้าปัญญาไม่พอ ต่อให้ต้องการชีวิตที่เรียบง่ายมากสักแค่ไหน ก็ไม่อาจพบกับความเรียบง่ายได้เลย
2. ความเรียบง่าย ไม่ได้มาจากความต้องการความเรียบง่ายในลักษณะแฟชั่น
แต่มาจากความคิดที่ต้องการกำจัดกิเล สของตนอย่ างจริงจัง
หนทางแห่งการใช้ชีวิตเรียบง่าย จึงเป็นหนทางเดียวกับการขัดเกลากิเลสของตน
“ความต้องการที่จะไม่ต้องการอะไรนั่นแหละ คือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่เรียบง่าย”
3. แม้ต้องการชีวิตที่เรียบง่าย การพูดจาของเราก็สมควรทำให้มีความเรียบง่ายด้วย “คำโกหกหลอกลวง
คำโฆ ษณาเกินจริง การวิจารณ์ที่ไร้ประโยชน์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องป วดหัวที่ต้องตระเตรียมการ
ต้องคิด ต้องใช้ส มองในทางที่ผิด” ง่ายที่สุด ดีที่สุด สบายใจที่สุด จงพูดแต่ความจริงที่เป็นประโยชน์
ถ้าต้องพูดอะไรที่โกหกและไม่เป็นประโยชน์ สู้เอาเวลาไปนอนเ สียยังดีกว่า
4. เราคือมนุษย์ผู้มีร่า งกายเน่าเหม็น เพียงไม่อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟั นเพียงครึ่งวัน
ความจริงก็เริ่มปรากฏ กลิ่นตัว กลิ่นปากตลบอบอวล หน้าตา ผมเผ้าเริ่มดูไม่ได้
ความจริงเหล่านี้ถูกเราปกปิดด้วยการแต่งหน้า ทาปาก นุ่งห่มเสื้อผ้าสวยงาม
แม้ต้องการชีวิตเรียบง่าย เราก็ควรพิจารณาความจริงของกายอย่ างจริงจังด้วย
“เป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะมีเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น ทาครีมประทินผิวให้น้อยลง ทำอะไร ๆ กับร่า งกายแต่พอดี
โดยรู้เท่าทันว่าร่า งกายนี้คือของชั่ วคร าวที่รอวันเสื่อมสลาย” มนุ ษย์เรายึดมั่นร่า งกายนี้เป็นที่สุด
ทำล ายความยึ ดมั่นในกายได้ ความเรียบง่ายของชีวิ ตจะไปไหนเ สีย
5. มนุษย์เรากินเพื่ออยู่ มิใช่อยู่เพื่อกิน มีคนมากมายที่ไม่มีกิน และมีคนมากมายที่กินทิ้งกินขว้าง
“แม้ต้องการมีชีวิตที่เรียบง่าย ก็สมควรทำเรื่องการกินให้เป็นเรื่องง่าย ๆ ด้วย เราจะมีชีวิตที่เรียบง่ายได้อย่ างไร
หากยังดิ้นรนแสวงหาของอร่อยกินอยู่ตลอดเวลา”
ขอบคุณที่มา : ล ะ มุ น ล ะ ไ ม