1. นำความสุขไปผูกกับเป้าหมายและวิ่งตามมันไปเรื่อย ๆ
หลาย ๆ คนมักวิ่งไล่ตามความสำเร็จ เพื่อที่จะมีความสุข บางคนกำหนดเป้าหมายบางอย่ างเอาไว้
และไม่อาจมีความสุขได้เลยถ้าเป้าหมายนั้นยังไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน
การเลื่อนตำแหน่ง หรือการมีแฟนแต่แล้วเมื่อได้สิ่งเหล่านั้นมา แทนที่จะพบความสุขนิรันดร์
เรากลับพบว่า ความสุขที่วาดฝันนั้นลดลงอย่ างรวดเร็ว คนเหล่านี้จึงต้องไปไล่ล่าเป้าหมายอื่น ๆ
เพื่อหวังจะมีความสุขอีกครั้ง และทำเป็นวงจรไม่มีสิ้นสุด ราวกับวิ่งอยู่บนลู่วิ่งเพื่อความสุข
ลองปรับตัวเองใหม่ ด้วยการทำให้เป้าหมายที่มีเป็นเพียงเป้าหมายที่เราอย ากไปถึง
โดยไม่นำความสุขไปผูกติ ดอยู่กับมัน เรียนรู้ที่จะมีความสุขกับปัจจุบันแทนสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต
“เป้าหมายชีวิตมีอยู่ 2 สิ่ง อย่ างแรกทำในสิ่งที่คุณต้องการ หลังจากนั้นจงสนุกกับมัน”
ดังนั้น ควรดื่มด่ำและให้ความสำคัญกับสิ่งตรงหน้า แล้วเราจะใช้ชีวิตง่ายขึ้น มีอิสระมากขึ้นและมีความสุขมากขึ้น
2. ให้ความสำคัญกับทุ กสิ่งทุ กอย่ างจนไม่รู้ว่าอะไรสำคัญที่สุด
เมื่อคุณคิดว่า “อันนี้ก็สำคัญ อันนั้นก็สำคัญ” สุดท้ายแล้วคุณจะทำอะไรไม่เสร็จสักอย่ าง
ความต้องการที่มีหลากหลายเกินไปทำให้เราไม่สามารถทำทุ กอย่ างได้หมด
ดังนั้นเราควรต้องจัดลำดับความสำคัญ เพื่อให้เราได้กรองสิ่งที่คิดว่ามันสำคัญสำหรับเราจริง ๆ
ลองถามตัวเองดูว่า การทำสิ่งนี้จะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นได้อย่ างไรบ้าง หรือถ้าเราตัดสิ่งนี้ออกไปชีวิตเรา
จะเป็นอย่ างไร การถามตัวเองจะทำให้เราสามารถตัดสินใจว่ามีสิ่งใดที่ควรเก็บและให้ความสำคัญ
มีสิ่งใดที่ควรทิ้งเพื่อลดความยุ่งย ากในชีวิต เราต้องตัดบางอย่ างเพื่อเก็บสิ่งที่สำคัญไว้
เมื่อเราทำเช่นนี้จะทำให้เราทุ่มเทสมาธิไปกับสิ่งที่เราให้ความสนใจจริง ๆ และพัฒนามันด้วยพลังที่เต็มที่
3. พย าย ามพิสูจน์ตัวเองเพื่อคนอื่นอยู่เสมอ
นิสัยลึก ๆ ของเรามักต้องการเอาชนะผู้อื่นอยู่เสมอ หลายคนพย าย ามพิสูจน์บางสิ่งบางอย่ างให้ผู้อื่นเห็น
หล่อเลี้ยงความสุขด้วยการเอาชนะ ขอความคิดเห็นเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทิศทางที่คนอื่นอย ากให้เป็น
ต้องการคำชมเพื่อให้ได้มาซึ่งความภาคภูมิใจแม้ว่าในที่สุดเราจะพิสูจน์ตัวเองได้ แต่เราจะไม่มีวันมีความสุขได้เลย
เราต้องทำตามสิ่งที่คนอื่นต้องการให้เป็นอยู่ตลอด จนกลายเป็นว่าเราไม่มีโอกาสทำสิ่งที่ตัวเองอย ากทำ
และเพราะว่าเป้าหมายแต่ละคนไม่เหมือนกัน นิย ามของคำว่า ‘ดีพอ’ ของคนเราไม่เท่ากัน
เราจึงไม่รู้เลยว่าต้องพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็นหรือยอมรับอีกนานแค่ไหน
สุดท้ายเราจะตอบตัวเองไม่ได้ว่าคุณค่าและความสำเร็จของเราคืออะไรกันแน่
4. ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไป
จากการสำรวจของ Global Digital Report 2021 พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้โซเชียลมีเดียมากเป็นอันดับ 1 ของโลก
ไม่ว่าจะเป็นขณะกินข้าวที่ต้องเปิดหนังดู หรือขณะรอคิวซื้ออาหาร หรือรอไฟแดง เราก็จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
เป็นพฤติกร รมที่เราทำอยู่บ่อยจนเกิดเป็นความเคยชินไปเสี ยแล้วการใช้สื่อโซเชียลมีเดียทำให้เราได้รับข่าวส ารต่าง ๆ มากมาย
บางอย่ างก็สร้างความบันเทิงให้กับเรา แต่บางอย่ างยิ่งอ่ าน ยิ่งดูก็ยิ่งห่อเหี่ยว จนทำให้เราไม่มีความสุขลองวางโทรศัพท์
แล้วปิดการรบกวน หยุดติ ดต่อ หยุดเ สพข่าวสักพัก แล้วใช้เวลานี้ไปกับกิจกร รมที่คุ้มค่าและเป็นประโยชน์ในอนาคต
เช่น ออกกำลังกาย ใช้เวลากับพ่อแม่ให้มากขึ้น หรือจะเป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ก็ได้เช่นกัน
เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีนั้นเกิดจากกิจวัตรที่เราทำอยู่ทุ กวัน ลองสร้างกิจวัตรใหม่ที่ใช้ชีวิต กับหน้าจอให้พอดีกันเถอะ
5. ไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น โ ทษทุ กอย่ างยกเว้นตัวเอง
“ความสำเร็จเกิดจากการที่เรารู้ว่าเราได้ทำมันเต็มที่อย่ างสุดความสามารถแล้ว”
เราทุ กคนต่างมีความสามารถที่เฉพาะเจาะจง แต่ละคนมีทักษะที่ถนัดและไม่ถนัด สิ่งนี้ที่เราทำอาจไม่ได้ผล
แต่มีสิ่งอื่นที่เราสามารถทำได้อย่ างดีเยี่ยม ขอให้รู้ว่าการยอมรับว่าสิ่งใดที่เราทำไม่ได้ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
และนี่คือความคิดของคนที่มีความสุขในทางกลับกัน คนที่ไม่มีความสุขในชีวิตมักเป็นคนที่หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง
และจะไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น จนปิดกั้นการเรียนรู้ใหม่ ๆ การที่เรารู้ว่าตัวเองได้พย าย ามอย่ างสุดความสามารถ
ถึงแม้ว่าในที่สุดจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนั้น ๆ ได้ แต่อย่ างน้อยเราจะได้ประสบการณ์และยอมรับว่า
มันไม่เหมาะกับตัวเอง การปล่อยวางสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นประตูไปสู่การเปิดรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า
6. ติ ดนิสัยนอนดึกจนทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อน
ไม่ว่าเหตุผลของการนอนดึกคือเพื่อเร่งปิดโปรเจกต์ ดูเน็ตฟลิกซ์แก้เบื่อหรืออะไรก็ตาม
แต่การนอนดึกจะทำให้เวลาอันมีค่าของเราถูกขโ มยไปชีวิตจะเปลี่ยนเมื่อเราเข้านอนเร็ว
การเข้านอนเร็วจะสามารถขจัดสิ่งรบกวนในชีวิตของเราได้เป็นอย่ างดี เราจะได้พักผ่อนมากขึ้น ตื่นเช้าขึ้น
เและมีส่วนทำให้งานที่ตั้งเอาไว้เสร็จตรงตามเป้าหมายและมีเวลาให้กับสิ่งที่เราอย ากทำมากขึ้นทริกก็คือ
ให้ตั้งนาฬิกาปลุกตอนกลางคืนเพื่อเตื อนว่าเราต้องปิดการแจ้งเตื อนทุ กชนิดและเตรียมตัวเข้านอน
วิ ธีนี้จะทำให้เรานอนหลับเป็นเวลาและมีประสิทธิภาพ
7. ติ ดอยู่กับความสัมพันธ์แ ย่ ๆ และไม่มูฟออน
คุยกับคนนี้ทีไร ทำไมเราหงุดหงิดทุ กครั้งเลยนะ? เบื่อจริง ๆ เพื่อนคนนี้พูดจาแด กดันอีกแล้ว
ความสัมพันธ์ที่บั่ นทอนจิตใจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชีวิตเราแ ย่ลง
ควรหลีกเลี่ยงคนที่สร้างพลังลบให้กับเรา หลีกเลี่ยงคนที่ทำลายบรรย ากาศในบทสนทนา
เลิกคบคนที่ทำให้ชีวิตเราแ ย่ลง แต่รั กษาคนที่ไม่ทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว และนำพาเราไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น
แต่สุดท้ายการมีความสุขที่ยั่งยืนและมั่นคงคือการมีความสุขด้วยตัวเอง เพราะการไม่ยึดติ ดความสุขกับคนอื่นนั้น
ไม่ยั่งยืนเท่ากับความสุขที่เกิดขึ้นจากตัวเราเอง
8. กลัวความผิ ดพลาดจนไม่กล้าตัดสินใจ รอแต่ช่วงเวลาที่เหมาะสม
แต่ละวันมีเรื่องให้เราต้องตัดสินใจอยู่ตลอด ถ้ามัวแต่กลัวการตัดสินใจผิ ดพลาด
รอให้ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคงไม่มีวันตัดสินใจสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตได้
“สิ่งที่ดีที่สุดคือทำสิ่งที่ถูกที่สุด รองลงมาคือทำผิด แ ย่ที่สุดคือการยืนเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย”
เพราะว่าสิ่งที่แ ย่ที่สุดคือการยืนอยู่เฉย ๆ การที่เราไม่กล้าลงมือ ไม่กล้าตัดสินใจ
เป็นการปิดกั้นความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ทำให้เราติ ดแหง็กอยู่ที่เดิม ไม่ว่าผลจะออกมาดีหรือแ ย่
อย่ างน้อยเราได้เรียนรู้จากสิ่งที่เลือกเรียนรู้จากประสบการณ์และข้อผิ ดพลาดจากมัน
เมื่อลองลงมือทำจริง ๆ ผลที่ออกมาอาจไม่เหมือนกับที่เราคิดแต่แรกก็ได้
9. จริงจังกับการใช้ชีวิตมากเกินไป
ลองถามตัวเอง เราจริงจังกับชีวิตเกินไปหรือเปล่า? เชือกที่ขึงตึงเกินไปนั้นไม่ดี แต่เชือกที่หย่อนเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน
หาจุดสมดุลของการใช้ชีวิตให้เจอ แล้วเราจะพบว่าชีวิตคือการปล่อยวาง ปล่อยให้ตัวเองมีอิสระในการใช้ชีวิตบ้าง
ไม่ลังเลและสนุกไปกับการทำในสิ่งที่ชอบ ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นอาจดูไร้ส าระในมุมมองคนอื่น แต่เราทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุข
แล้วเราจะได้ค้นพบชีวิตที่เต็มไปด้วยความสนุกและงดงามบางทีความสุขไม่ใช่การมองหาและครอบครองสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
แต่เป็นการยอมรับ ปล่อยวาง ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต เราต่างมีมือเพียงสองข้าง และไม่อาจถือทุ กสิ่งทุ กอย่ างไว้
ด้วยมือเพียงสองข้างนี้ได้ การถือหลายสิ่งไว้ในเวลาเดียวกัน จะทำให้เราหนักและเหนื่อย
ฉะนั้นการละทิ้งบางอย่ างที่ไม่จำเป็นในชีวิตจะทำให้เราประสบความสำเร็จและมีความสุขได้อย่ างแท้จริง
ขอบคุณที่มา : forlifeth