มีลูกน้องอายุมากกว่า จะบริหารอย่ างไร

ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และโลกที่พัฒนา ไปไวกว่าจรวด

ทำให้โลกแห่งการทำงานที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีล้ำสมัยเป็นเวทีแจ้งเกิดให้กับเด็ กรุ่นใหม่

ที่เกิดและโตมากับเทคโนโลยี พร้อมเปิดรับแล้วปรับตัวเรียนรู้ให้ทำงานด้วยเทคโนโลยีได้อย่ างดี

บวกกับวิ ธีคิดแบบใหม่ที่ทำให้หลาย ๆ บริษัทต้องการตัวคนรุ่นใหม่เหล่านี้ไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาบริษัท

ประกอบกับแนวคิดที่วัดผลการเลื่อนขั้นกัน ที่ผลงานมากกว่าอายุ จึงทำให้เราได้เห็น

“หัวหน้าอายุน้อย” ที่ต้องมารับบทบาทดูแลทีมที่มีลูกทีมเป็นพนักงานอาวุโส

หรือ “รุ่นพี่” ที่มีอายุมากกว่าในหลายบริษัท การทำงานร่วมกันของคนที่มาจากหลายเจนเนอเรชั่น

โดยเฉพาะอย่ างยิ่งการที่อำนาจตัดสินใจ ต กมาอยู่ในมือของคนรุ่นใหม่

ที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมดูแลลูกทีมที่มีอายุมากกว่าจึงทำให้เกิด “ช่องว่าง”

และความย ากให้การบริหารคนอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องย าก

หากคุณเป็นหัวหน้าทีมอายุน้อยที่รู้จักวิ ธีบริหารคน คุมทีมที่มี ลูกน้องอายุมากกว่า แบบมืออาชีพ

 

ลงมือทำงานจริง อย่ างเป็นมืออาชีพ

ในเมื่อคุณได้รับเลือก ให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแล้ว นั่นหมายความว่าบริษัทจะต้องเห็นความสามารถ

และฝีมือในตัวคุณอย่ างแน่นอน คุณจึงไม่ควรกลัวที่จะแสดงศักยภาพของคุณ

ว่าจะเป็นการข้ามหน้าข้ามตาใคร คุณควรทำงานอย่ างจริงจัง เต็มความสามารถ

แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความนอบน้อม ให้ความเคารพในความอาวุโส ไม่แสดงท่าทีกร่าง หรือยกตนข่มลูกน้อง

(ไม่ว่าเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม) ทำงานอย่ างรอบคอบ มีเหตุมีผลแบบเป็นมืออาชีพ

โฟกัสที่งานมากกว่าเรื่องอื่น แสดงให้ลูกน้องเห็นว่าคุณเป็นคนตั้งใจทำงานจริง มีศักยภาพจริง

ไม่ได้เป็นหัวหน้าที่เอาแต่สั่งงานเพียงอย่ างเดียว แต่พร้อมลงมือทำไปกับลูกน้องด้วย

แล้วเมื่อคุณพิสูจน์ตัวเอง ให้ลูกน้องที่อายุมากกว่าเห็นได้แล้ว เมื่อนั้นพวกเขาก็จะเชื่อมั่นและยอมรับในตัวคุณเอง

 

แสดงความยอมรับนับถือลูกทีมที่อายุมากกว่า

หลายครั้งที่ความต่างระหว่างวัย นำมาซึ่งความไม่เข้าใจ และทัศนคติเชิงลบ โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่า

คนเจนเนอเรชั่นเก่า มักจะมีความคิดที่ไม่ก้าวหน้า หรือยึดติ ดกับแบบแผนเดิม ๆ

ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเสมอไปในเมื่อคุณเองก็ได้รับโอกาสจากความเปิดกว้างเรื่องอายุ ความอาวุโส

และมีโอกาสได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าแล้ว ก็ควรมอบความเสมอภาค และความเคารพนับถือซึ่งกันและกันอย่ างเท่าเทียม

ให้กับลูกน้องที่มีอายุมากกว่าเราด้วยเช่นกัน เพราะไม่ว่าใคร ก็อย ากได้รับการยอมรับนับถือกันทั้งนั้น

นี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรคิดถึงเสมอ โดยเฉพาะการทำงานกับคนที่มีอายุมากกว่า แม้เขาจะเป็นลูกน้องของคุณ

แต่เขาก็เป็นคนที่อายุเยอะกว่าเรา และอาจมีประสบการณ์การทำงานบางอย่ างที่มากกว่าเรา

ซึ่งคุณอาจจะได้เรียนรู้จากเขา และใช้นำประสบการณ์จากลูกน้องที่มีอายุมากกว่ามาใช้กับงานที่ทำอยู่ก็ได้

 

ขอความรู้หรือความช่วยเหลือจากเขา

ในที่ทำงานทุ กคนอย ากรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ และไม่เป็นคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

อย่ างที่บอกไปแล้วว่าอายุที่มากกว่าอาจทำให้เขามีประสบการณ์ ทำงานแบบที่คุณไม่เคยเจอ

และเรื่องเหล่านี้สามารถเอามาเป็นประโยชน์กับงานได้ การขอความรู้หรือขอความช่วยเหลือ

จากลูกน้อยที่อายุมากกว่า จึงเหมือนเป็นการแสดงการให้เกียรติพวกเขาไปในตัว

เป็นการบอกพวกเข้าอย่ างจริงใจว่าคุณเองก็ไม่ได้รู้ไปหมดซะทุ กเรื่อง

และเรากำลังทำงานร่วมกันแบบเป็นทีมที่ทุ กคนมีความสามารถ และมีความสำคัญเท่าเทียมกัน

แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นหัวหน้าที่พร้อมจะรับฟังและให้คุณค่ากับทุ กคนอย่ างเท่าเทียม

 

แบ่งงานอย่ างเท่าเทียม วัดผลอย่ างเปิดเผย

ความเท่าเทียมเป็นอีกหนึ่งนิย ามสำคัญที่สะท้อน การทำงานแบบมืออาชีพ เมื่อคุณก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าแล้ว

คุณควรวางระบบกระจายงานให้ทุ กคนได้ ทำงานอย่ างเท่าเทียมและเหมาะสม

ไม่เกี่ยงว่าใครอายุมากอายุน้อยจะได้ทำงานมากกว่าหรือน้อยกว่า สร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในทีมของคุณเอง

แม้อาจจะมีปัญหาที่พนักงานอายุเยอะจะเคยทำงานสบายมาก่อน และอาจจะมีอาการอิดออดไปบ้าง

ที่ได้รับงานเพิ่มขึ้น แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามเป็นอย่ างดี ก็จะช่วยกดดันให้ลูกน้องรุ่นใหญ่ของคุณปรับเปลี่ยนวิ ธีการทำงานได้ไม่ย าก

รวมถึงการสร้างระบบการวัดผลของงาน อย่ างเปิดเผยและเป็นธรรม ก็จะช่วยทำให้ระบบแบ่งงานที่คุณทำไว้ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น

 

แทนที่จะสั่งเปลี่ยนมาเป็นขอความร่วมมือแทน

ไม่มีใครชอบเจ้านายบ้ าอำนาจ โดยเฉพาะลูกน้อง ที่มีอายุมากกว่า หากมาเจอหัวหน้าเ ด็ก ที่พร้อมสั่งตลอดเวลาแล้ว

คงจะยิ่งถูกเกลี ยดและไม่ให้ความร่วมมือมากกว่าเดิม เพราะนี่เหมือนเป็นการเหยี ยบย่ำศักดิ์ศรีพวกเขาไปด้วย

ลองใช้การ “ขอความร่วมมือ” แทนที่ “คำสั่ง” ก็จะช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นได้ เพราะเป็นทั้งการแสดงความนอบน้อม

และให้เกียรติกับพวกเขาไปในตัว วิ ธีการสื่อส ารที่นุ่มนวลจะช่วยให้การทำงานที่มีช่องว่างระหว่างไว้ราบรื่นขึ้นได้

และยังจะได้รับความร่วมมืออย่ างดีจากลูกน้องทุ กคนอีกด้วย

 

ลองนำวิ ธีด้านบนไปปรับใช้บริหารลูกน้องที่มีอายุมากกว่าของคุณดู เน้นที่การทำงานอย่ างเป็นมืออาชีพ

และไม่ลืมที่จะให้เกียรติลูกน้องด้วยการแสดงความนับถือ และสื่อส ารอย่ างจริงใจ

ในฐานะที่พวกเขามีอายุมากกว่า เชื่อได้ว่าคุณจะได้ใจลูกน้องที่เป็นคนรุ่นใหญ่ได้ไม่ย าก

 

ขอบคุณที่มา : sabailey