Home ข้อคิดดีๆ พ่อแม่ทุ กคนควรรู้ เลี้ยงลูกแบบนกอินทรีย์

พ่อแม่ทุ กคนควรรู้ เลี้ยงลูกแบบนกอินทรีย์

9 second read
ปิดความเห็น บน พ่อแม่ทุ กคนควรรู้ เลี้ยงลูกแบบนกอินทรีย์
0
372

แน่นอนว่าพ่อแม่ทุ กคนต้องรัก และหวังดีกับลูกอยู่เสมอ อย ากที่จะเห็นลูกเติบโตมาอย่ างมีคุณภาพมีชีวิตที่ดี

แล้วคุณคิดว่า คุณเลี้ยงลูกถูกต้องแล้วหรือยัง ลองมาดูวิ ธีการเลี้ยงลูกแบบนกอินทรีย์ ว่าเจ้านกอินทรีย์เลี้ยงลูกอย่ างไร

ก่อนที่จะวางไข่ สิ่งสำคัญของนกคือ รังนก ทั้งพ่อนกและแม่นกจะช่วยกันสร้างรัง บนหน้าผาที่สูงชัน

เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกรบกวนจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ

 

ชั้นที่ 1 แม่นกจะวางก้อนหิน ก้อนใหญ่ ๆ วางล้อมกรอบเป็นวงขนาดพอตัว

 

ชั้นที่ 2 แม่นกจะวางท่อนไม้ท่อนโต ๆ ไขว้กันไปมาเพิ่มความแข็งแรงของรัง

 

ชั้นที่ 3 แม่นกจะวางกิ่งไม้ที่มีหนามขนาดใหญ่วางพลาดระหว่างท่อนไม้ ซ้อนไปมา

 

ชั้นที่ 4 แม่นกจะวางใบไม้หนา ๆ เพื่อป้องกันหนามที่แหลมคมจากกิ่งไม้ และ เป็นพื้นนอนได้

 

ชั้นที่ 5 แม่นกจะจิกขนอ่อนใต้ปีกของตนเอง ออกมาทำเป็นที่นอนนุ่ม ๆ สำหรับให้ลูกนอนสบาย

เมื่อใช้เวลาเลี้ยงลูกน้อยจนโตได้ในระดับหนึ่ง จนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว แม่นกจะเริ่มฝึกลูกนกอินทรีย์

 

ขั้นตอนสำคัญของการฝึกลูกนกอินทรี

ขั้นที่ 1 แม่นกเริ่มจิกเอาขนนุ่ม ๆ ออกจากรัง เพื่อไม่ให้ได้นอนสบายเหมือนเดิม

ลูกจะเริ่มได้เรียนรู้ถึงความลำบาก ซึ่งแรก ๆ ลูกจะร้อง จนปรับตัวได้ในที่สุด

 

ขั้นที่ 2 เอาใบไม้ออกจากรังจนหมด จนเหลือแต่กิ่งไม้แข็ง ๆ ไว้เป็นที่นอน

ซึ่งลูกนกก็จะต้องพย าย ามนอนให้ได้ และต่อมาลูกนกจะเริ่มชินกับการนอนแบบนี้

ซึ่งการนอนบนหนามก็มีข้อดีคือ เมื่อนอนพลิกตัวไปมาจะโดนทิ่ ม ทำให้ฝึกการรู้สึกตัว

และ ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา แม้เวลานอนก็ตาม

 

ขั้นที่ 3 เอากิ่งไม้ที่มีหนามออก คราวนี้ไม่มีให้นอน ดังนั้นลูกนกจะต้องเรียนรู้

ที่จะใช้ขาเกาะกิ่งไม้ให้แข็งแรง เป็นการฝึกกล้ามเนื้ อขาให้แข็งแรง

แล้วลูกนกต้องสามารถหลับได้โดยการเกาะกิ่งไม้นอน

 

ขั้นที่ 4 เอากิ่งไม้ออกเหลือเฉพาะรากฐานที่เป็นก้อนหิน เป็นพื้นแข็ง ๆ

ซึ่งคราวนี้แหละจะลำบากที่สุด เพราะไม่มีแม้แต่กิ่งไม้ให้เกาะ

เพื่อสร้างความอดทนให้ลูกทุ กตัวเตรียมพร้อมที่จะบิน

 

ขั้นที่ 5 สอนบิน แม่นกจะเริ่มคาบลูกนกทีละตัว แล้วบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

เพื่อให้ลูกนกได้เห็นโลกกว้างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และ ให้เคยชินกับอากาศเย็น ๆ

มีลมพัดแรง ๆ ในที่สูงๆ จากนั้นก็จะนำลูกนกกลับรัง และเปลี่ยนเอาตัวอื่น ๆ ไปจนครบหมดทุ กตัว

 

วันต่อ ๆ มา แม่นกจะไม่คาบลูกนกบิน แต่จะกางปีกลงไปที่รัง แล้วให้ลูกนกปีนขึ้นมาบนปีกของแม่แทน

จากนั้นแม่นกก็จะพาบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และพาลูกนกกลับมาคืนรัง และทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

คราวนี้แม่นกพาบินทีละตัว แม่นกบินไปมาอย่ างรวดเร็ว ขึ้นลงบนท้องฟ้า แม่นกเริ่มพาลูกบินสูงขึ้น

และสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ลูกนกยังไม่ทันได้ตั้งตัว แม่นกก็สลัดปีกตัวเองอย่ างแรง

จนลูกนกตัวน้อย ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ และต กลงมาอย่ างรวดเร็ว

ลูกนกต กใจ ได้แต่ร้องดังลั่น และพย าย ามกางปีกออกเพื่อประคองตัวเอง พอใกล้จะถึงพื้น

ลูกนกยังไม่ทันจะได้กางปีกออก แม่นกก็บินมาโฉบรับลูกก่อนจะถึงพื้นได้อย่ างแม่นยำ

และ พาลูกนกกลับรังอย่ างปลอดภัย แล้วแม่นก ก็จะเริ่มฝึกลูกแบบนี้ทุ กตัว

จนกว่าลูกจะสามารถกางปีก และบินเองได้ในที่สุดเมื่อถึงวันนั้น

หน้าที่ของพ่อแม่นกเหล่านี้ก็เรียกได้ว่า สำเร็จแล้ว

 

ลองหันกลับมาถามตัวคุณดูซิ ว่าคุณเลี้ยงลูกได้ถูกทางแล้วหรือยัง คุณกำลังฝึกให้ลูกใช้ชีวิต

และสามารถเอาตัวรอดบนโลกใบนี้ได้ด้วยตัวเอง หรือคุณกำลังดูแลไม่ห่าง ช่วยเหลือลูกทุ กอย่ างอยู่หรือเปล่า

พ่อแม่ทุ กคนรักลูก แต่ต้องรักและเลี้ยงดูให้ถูกทางด้วยนะคะ เพราะหากคุณโอ๋ลูกมากจนเกินไป

สุดท้ายแล้วเมื่อเติบโตขึ้น พวกเขาอาจไม่ใช้ผู้ใหญ่ที่ ปีกกล้า ขาแข็ง มากพอที่จะพึ่งพาตัวเองได้

วันหนึ่งคุณก็ต้องปล่อยให้เขาใช้ชีวิตเอง คุณไม่สามารถอยู่ดูแลปกป้องเขาไปได้ตลอดชีวิต

ดังนั้นควรปล่อยให้เขาได้เรียนรู้และช่วยเหลือตัวเองให้ได้จะดีที่สุด ถ้ารักลูก ต้องรักให้ถูก และเลี้ยงลูกให้เป็น

 

ขอบคุณที่มา :bitcoretech

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In ข้อคิดดีๆ
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …