มดแดง เป็นสัตว์สังคมชนิดหนึ่ง มักทำรังอยู่ตามต้นไม้ โดยใช้ใบไม้มาห่อเป็นรังอยู่อาศัย
เวลาถูกรบกวน จะรวมกลุ่มกันป้องกันตัว ปากก็กัด ก้นก็ต่อย ปล่อยกรดออกมา
ทำให้ศัตรูเกิดอาการระคายเคือง ปวดแสบปวดร้อน
วงจรชีวิตและพฤติก รรมของมดแดง ให้ข้อคิดทางธรรมหลายประการ คือ
“รวมตัวเป็นหนึ่ง พึ่งเรี่ยวแรงแห่งตน
อดทนทำงาน เก่งการเป็นกลุ่ม
รุมสู้ศัตรูด้วยกัน แข่งขันหวงไข่หวงรัง
ยอมสละทั้งชีวิตเพื่อส่วนรวม
และร่วมกันเชิดชูนางพญาผู้นำ”
ด้วยเหตุนี้ นักปราชญ์ จึงได้ประพันธ์เป็นคำกลอน ด อ กสร้อยสุภาษิตสอนใจว่า
มดเอ๋ย มดแดง
เล็กเล็ก เรี่ยวแรง แข็งขยัน
ใครกล้ำกลาย ทำร้ าย ถึงรังมัน
ก็วิ่งพรู กรูกัน มาทันที
สู้ได้ หรือมิได้ ใจสาหัส
ปากกัด ก้นต่อย ไม่ถอยหนี
ถึงรังเรา ใครกล้า มาราวี
ต้องต่อตี ทรหด เหมือนมดเอย
มนุษย์แม้เป็นสัตว์สังคมชั้นสูง หรือเป็นสัตว์ประเสริฐกว่าสัตว์ทุ กประเภทก็จริง
แต่การประพฤติปฏิบัติบางอย่ างของมนุษย์บางคน อาจสู้พฤติก รรมของสัตว์บางประเภทไม่ได้เลย
หากนำส่วนดี ๆ ที่สัตว์กระทำ เช่น ดีในมดแดงดังกล่าว
มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตบ้าง
ก็คงไม่ก่อให้เกิดผลเสี ยแต่อย่ างใด
แต่กลับจะให้ผลดีที่ช่วยสร้างเสริมจิตสำนึกสัตว์สังคม คือ
ความสามัคคีแ ก่ ห มู่คณะ และความเสี ยสละเพื่อส่วนรวม
ให้สมกับคำว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคมชั้นสูง และสัตว์ประเสริฐ
นั่นคือ ประเสริฐได้ เพราะการพัฒนาด้านพฤติก รรมอย่ างแท้จริง
ขอบคุณที่มา : ส ถ า นี ค ว า ม สุ ข