1. การรู้จักตัวเอง
คนจน: คนย ากจนมีวิถีชีวิตที่คุ้นเคย กับความย ากจนจึงไม่ค่อยมีความคิดที่จะทำตัวเองให้ร่ำร วยขึ้น และมองตนเองเป็นคนย ากจนอยู่เสมอ
ฉะนั้นเมื่อมีเงิ นพวกเขาจึงจะเลือกที่จะใช้จ่ายไปกับการซื้อบ้าน, ซื้อรถหรือสิ่งอื่น ๆ ที่จะช่วยยกระดับชีวิตในระยะสั้นแทนการใช้จ่ายเงิ นไปกับการพัฒนาตนเองและสร้างแหล่งรายได้ใหม่ ๆ
คนร่ำร วย: คนร่ำรว ยไม่อาจทนใช้ชีวิต ในสภาพแวดล้อมที่อัตคัต ทั้งพวกเขายังไม่เชื่อว่าตัวเอง ถูกลิขิตให้เกิดมาเป็นคนย ากจน พวกเขาจึงมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เป็นอยู่
และพย าย ามทุ กวิถีทางที่จะก้าวข้ามผ่ านความย ากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่เนื่องจากพวกเขารู้จักตนเองเป็นอย่ างดีและรักในศักดิ์ศรีที่ไม่ยอมให้ใครมาดูถู กว่าจน
และความรู้จักตัวเองนี้เอง ทำให้พวกเขาสร้างความเปลี่ยนแปลงและมุ่งมั่นเพื่อให้ตนเองมีชีวิตที่ดีขึ้น
2. สำนึกความเป็นเจ้าของ
คนย ากจน: คนจนมักคิดไปเองว่าตนเองไม่มีความสำคัญ เพราะมีชาติกำเนิดที่ต่ำต้อยทำให้ข าดสำนึกความเป็นเจ้าของ พวกเขาจึงพย าย ามเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรหรือบริษัทเพื่อเติมเต็มความรู้สึกนี้
ซึ่งมันจะทำให้พวกเขาสูญเสี ยความทะเยอทะย าน, สูญเ สียการตัดสินใจที่เด็ดข าดรวมถึงสูญเสี ย การมีความคิดเป็นของตนเองอีกด้วย ฉะนั้นความฝันที่สวยงามและสุดยอดสำหรับคนจน
คือการที่พวกเขาได้เข้าไปทำงานในบริษัทขนาดใหญ่และทำงานอยู่ได้หลายสิบปี โดยสามารถเลื่อนขั้นจากเด็ กฝึกงานได้ไปจนถึงระดับผู้บริหารอาวุโสนั่นเอง
คนร วย: คนร วยมักจะมีธุรกิจ หรือองค์กรเป็นของตัวเอง ซึ่งโดยปกติแล้วผู้นำในองค์กรคือคนร วยที่มักจะปลูกฝังสำนึกความเป็นเจ้าของให้กับคนอื่น
โดยพวกเขามักจะบอกคนในองค์กรว่า “คุณต้องตั้งใจทำงานและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร รวมถึงจงรักภักดีต่อองค์กรและแสดงความคิดสร้างสรรค์ของคุณออกมา โดยสิ่งที่คุณพย าย ามทำทั้งหมดนั้นไม่ได้เป็นการทำเพื่อองค์กรแต่เพื่อตัวคุณเองต่างหาก”
ซึ่งสิ่งที่พวกเขาบอกกับคนในองค์กรนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เนื่องจากคนย ากจนมีสิทธิ์ที่จะได้รับผลตอบแทนจากความตั้งใจในการทำงาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนร วยเหล่านั้นก็จะได้รับประโยชน์จากคนย ากจนอีกต่อหนึ่งด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้คนร่ำร วยยังไม่เคยข าดสำนึกความเป็นเจ้าของ เพราะพวกเขาเป็นผู้สร้างความรู้สึกนี้และต้องการให้คนอื่นมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน!
3. วงสังคม
คนจน: ดังคำกล่าวที่ว่า ‘นกที่มีขนเหมือนกันจะอยู่รวมกลุ่มกัน’ ดังนั้นวงสังคมของคนจนจึงมักจำกัด อยู่ในวงแคบและถือว่าการติ ดต่อกับสัมพันธ์กับคนร วยถือเป็นเรื่องที่พิเศษ
นอกจากนี้คนที่อยู่ในสถานะทางสังคมที่เหมือนกันมักจะมีอะไรคล้าย ๆ กันทำให้เมื่อพูดคุยกันแล้วมีความสบายใจ เช่น พวกเขาสามารถพูดคุยกันเรื่องสินค้าลดราคา, งานบ้านรวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน
แต่การที่มีวงสังคมที่แคบนี้เองทำให้พวกเขาไม่มีความทะเยอทะย าน และปล่อยให้โอกาสแต่ละอย่ างที่ผ่ านเข้ามาในชีวิตหลุดลอยไปอย่ างช้า ๆ
คนร วย: เพื่อนของเรามักจะสามารถบ่งบอก ถึงตัวตนของเราได้ ดังนั้นคนร วยจึงมักจะเป็นเพื่อนกับคนที่เอื้อประโยชน์ได้แต่ไม่ได้หมายความว่าคนร วยจะคบเพื่อนที่ความร วย
พวกเขาจะคบกับคนที่รับฟังไอเดียของพวกเขา และสามารถให้แรงบันดาลใจได้ นอกจากนี้วงสังคมของคนร วยยังกว้างขวางและมีเพื่อนใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เนื่องจากคนร วยมักจะขย ายวงสังคมให้กว้างขึ้นเพื่อรับข้อมูล ข่าวส ารหรือความคิดใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์กับพวกเขานั่นเอง
4. แพชชั่น
คนจน: แพชชั่นเป็นสัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวา และความคิดสร้างสรรค์ โดยปกติแล้วคนย ากจนมักจะเน้นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยเป็นหลัก พวกเขาจึงทำงานทีละขั้นตอนเพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายและลดความ เ สี่ ย ง ที่จะเกิดขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันความรอบคอบ ที่มากเกินไปนี้ก็เป็นการขัดขวางการมีแพชชั่นซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงาน แ ย่ ลงและมีการเฉื่อยชาทางความคิดรวมถึงเป็นอุปสรรค ในการการไล่ทำตามความฝันอีกด้วย
นอกจากนี้การข าดแพชชั่น จะทำให้คุณข าดแรง ก ร ะ ตุ้ น และข าดความเจริญรุ่งเรืองไปตามลำดับ
คนร วย: คนร วยมักต้องใช้ทั้งความอดทนและแพชชั่น ในการพัฒนาในอาชีพของตัวเองไปอีกขั้น และการที่พวกเขาต้องแก้ไขปัญหาและฝ่าฟั นอุปสรรคอยู่อย่ างต่อเนื่องนี้เอง
ทำให้คนร วยคุ้นเคยกับการใช้ความอุตสาหะและแพชชั่น ในการเผชิญต่อสถานการณ์ที่ย ากลำบาก โดยสำหรับพวกเขาแล้วรางวัล ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการไล่ตามแพชชั่น
และการต่อสู้กับความย ากลำบากไม่ใช่การที่พวกเขาร่ำรว ยมากขึ้น หรือการที่ได้ยกระดับสถานะทางสังคม แต่เป็นความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นจากการที่ได้ทำตามแพชชั่นและความฝันนั่นเอง
5. การเรียนรู้และการท้าทาย
คนจน: คนจนมักแสวงหาการใช้ชีวิต ที่ง่ายดายและสะดวกสบาย อีกทั้งชอบที่จะไหลไปตามน้ำแต่จะไม่คิดว่าทำอย่ างไรตัวเองถึงจะโดดเด่นขึ้นมา
พวกเขาไม่ชอบการผจญภัยและไม่เต็มใจที่จะเรียนรู้รวมถึงทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทายนอกจากจะถูกบังคับ ให้ทำเท่านั้น ซึ่งความล้ มเหลวเป็นอุปสรรค
ที่ทำให้คนย ากจนไม่มีการพัฒนาขีดจำกัดและก้าวออกมาจากกรอบของตนเอง
คนร วย: คนรว ยมีการพัฒนาความรู้ และแนวคิดอย่ างรวดเร็วเพราะพวกเขาได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ ที่คนอื่นไม่กล้าทำ นอกจากนี้พวกเขายังท้าทายตัวเองอยู่ตลอดเวลาและลองค้นหาสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งไม่เหมือนกับคนจนที่มักกลัวความล้ มเหลว
เมื่อคนรว ยตัดสินใจอะไรซักอย่ างแล้วพวกเขาจะมุ่งตรงไป ที่เป้าหมายซึ่งจะไม่ทำแบบขอไปทีแต่ต้องผ่ านการวิเคร าะห์ และคำนวณมาอย่ างรอบคอบ กล่าวได้ว่า คนจนคือคนที่อยู่ในกรอบและระมัดระวั งตัวเกินไป
ส่วนคนร วยคือคนที่เปิดกว้างด้านการเรียนรู้ และกล้าที่จะทำทุ กอย่ างเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
ขอบคุณที่มา : sabailey