1. เทคนิคแรกเริ่มตั้งแต่ก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยในทุ ก ๆ ครั้งก่อนที่เราจะสตาร์ทเครื่องยนต์นั้น
ควรที่จะปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ก่อนหรือที่เราจะเห็นว่าเป็นสัญลักษณ์ A/C นั่นเอง
เราปิดเพื่อให้คอมเพรสเซอร์เป็นตัวฉุดกำลังไฟฟ้าในขณะที่เราจะสตาร์ทรถยนต์นั่นเอง
2. และหลังจากที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ไปแล้วนั้น ไม่ควรที่จะรับปรับอุณหภูมิแต่ควรที่จะเปิดแอร์
โดยใช้ความเร็วของพัดลมเสริมก่อน เพื่อเป็นการไล่ความร้อนในระบบของแอร์ออกไป
และหลังจากนั้นจึงค่อยทำการเปิดสวิตช์ A/C ปรับอุณหภูมิและความเย็นให้เหมาะสมกับความต้องการ
3. เมื่อปรับอุณหภูมิได้ตามความต้องการแล้วแต่ถ้าหากขับรถไปได้ซักพักแล้วรู้สึกว่าอุณหภูมิเย็นเกินไป
บางคนอาจใช้วิ ธีหันทิศทางช่องแอร์ออกไปทางด้านอื่นไม่ให้โดนตัว แต่เราแนะนำว่า
ให้ใช้วิ ธีปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นแทนเพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนักโดยไม่จะเป็น
4. หากเรารู้ว่าใกล้จะถึงจุดหมายที่เราต้องการจะไปแล้ว ก่อนถึงปลายทางประมาณ 5 นาที
แนะนำว่าให้ปิดสวิตช์ A/C และเปลี่ยนไปเปิดพัดลมที่ความเร็วสูงสุดแทน
วิ ธีการนี้จะช่วยลดภาระการทำงานหนักของคอมเพรสเซอร์ และยังช่วยไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็น
ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้แอร์เกิดกลิ่นอับได้ หากทำวิ ธีนี้เป็นประจำจะช่วยให้แอร์รถของคุณ
ไม่มีกลิ่นเหม็นอับแน่นอนและเมื่อถึงที่หมายก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ก็ให้ปิดพัดลมก่อน
5. หากใครที่จอดรถตากแดดไว้นาน ๆ หรือไม่ได้ใช้รถหลาย ๆ วัน เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้ว
ควรเปิดลมเป่าในระดับแรงสุดก่อนโดยที่ยังไม่เปิดสวิตซ์ A/C ประมาณ 5 นาที
วิ ธีนี้จะช่วยไล่ความร้อนหรือความชื้นที่ค้างอยู่ในระบบแอร์ได้
เมื่อความร้อนหรือความชื้นลดลงแล้วค่อยเปิดสวิตซ์ A/C ตาม
วิ ธีการนี้นอกจากจะช่วยชะลอการเสื่ อมของเครื่องได้แล้ว ยังทำให้ตู้แอร์มีกลิ่นอับลดลงได้
6. สำหรับใครที่ต้องการให้รถหอม ๆ อาจมีการเลือกน้ำหอมสำหรับรถยนต์มาไว้ในรถ
แต่เรามีข้อแนะนำว่า ควรจะเลือกน้ำหอมชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ
มาเสี ยบไว้หน้าช่องแอร์ เพราะอาจจะทำให้ตู้แอร์ผุกร่อนเร็วขึ้นกว่าเดิมได้
7. ในขณะที่กำลังเปิดแร์อยู่นั้น ไม่ควรเปิดปิดกระจกรถบ่อย ๆ เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการนำความร้อน
เข้ามาภายในรถ แต่ยังจะทำให้เศษต่าง ๆ เข้ามาในรถและอาจมาทำให้เกิดการอุดตันในเครื่องแอร์ได้
หากจำเป็นต้องเปิดแอร์ไม่ว่าจะเป็นด้านคนขับหรือด้านคนนั่งควรที่จะปิดช่องแอร์ฝั่งนั้นก่อน
เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของแอร์ให้นานขึ้น
8. และถ้าหากรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็น ควรปิดสวิตซ์ A/C ในทันที โดยที่เรายังสามารถใช้พัดลมเป่าอยู่ได้
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์เสี ยหาย จากนั้นจึงนำรถไปตรวจเช็คความผิดปกติของเครื่องแอร์
ขอบคุณที่มา : postsod