1. การออกกำลังกาย
ลุกจากที่นอน มาออกกำลังกายตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ ลองเลือกมาซักกิจกร รมจะเดินเล่น วิ่งจ๊อกกิ้ง
เล่นโยคะ หรือเข้าฟิ ตเนสตอนเช้า ๆ เป็นการเติมพลัง ในการทำงานให้บรรลุผลสำเร็จได้เป็นอย่ างดี
ซึ่งสอดคล้องกับ ผลวิจั ยที่พบว่าคนที่ออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 10 สัปดาห์
มีโอกาสที่จะเป็นคนที่ท รงอิทธิพล ทางความคิด ความรู้และทักษะด้านกีฬา
และคนที่ออกกำลังกาย เป็นประจำทุ กวัน จะมีพลัง และมองโลกในแง่บวกมากขึ้น
2. ทานมื้อเช้า กับครอบครัว
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ต่างรู้ดีว่า อาหารเช้าคือพลังงานสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนไปสู่
ความสำเร็จดังนั้น คนเหล่านี้จึงตื่นขึ้นมาเพื่อทานอาหารเช้า ด้วยเหตุผลแสนจะสำคัญระดับชาติ
นั่นคือ “ถ้าท้องว่าง สม องก็ว่างเปล่า” ยิ่งได้นั่งทานอาหารเช้า พร้อมครอบครัว ที่แม้ว่าเป็นเวลา
สั้น ๆ ไม่ถึงครึ่งชั่ วโมงที่ทุ กคนในครอบครัวจะได้เจอหน้ากัน พูดคุย อั พเด ทชีวิตพร้อมหน้าพร้อมตา
แต่หลังจากแยกย้ ายกันออกไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว ยังรู้สึกว่าสายสัมพันธ์ของพวกเขายังกระชับแน่นดี
3. ทำสมาธิ
หลังจากปลุกพลังในกาย ให้พร้อมกับวันใหม่ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก็ไม่พลาด ที่จะปลุก
พลังใจเรียกความสงบนิ่งให้จิตใจก่อนออกไปสู้กับปัญหาต่าง ๆ ส่วนวิ ธีการจะเป็นเช่นไร
นั่งสมาธิหรือส วดม นต์ก็แล้วแต่ศ าสนา ความเชื่อของแต่ละคน
4. ออกจากระบบออ นไลน์
ผู้บริหารหรือนักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จมักจะหวงความสงบในตอนเช้า และไม่อย ากให้ใคร
หรืออะไรมารบกวน คนเหล่านี้จึงมักจะไม่หยิ บสมาร์ทโฟ นขึ้นมาเช็คอีเม ล แช ตหรือเช็คโ ซเชี ยล
ทันทีที่ตื่นนอน แต่จะใช้เวลาเช้าอันแสนสงบอยู่กับตัวเอง และคนในครอบครัว ของเขา
5. มีการวางแผนชีวิตประจำวัน
เวลาเช้าตรูเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวัน ความเงียบสงบในช่วงเช้ามืดของทุ กวัน สามารถนั่งเขียน
เป้าหมาย สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน และจัดเรียงลำดับความสำคัญของงาน ที่ต้องทำในวันนั้น ๆ
นอกจากนี้เวลาเช้าตรู่ ยังเป็นช่วงเวลาที่ความสามารถในการแก้ปัญหา จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วย
6. ลำดับงานย าก ให้เป็นงานชิ้นแรกของวัน
เลือกงานที่คิดว่าโหดหิน ย ากเย็ นเข็ ญใจที่สุดของวัน มาทำเป็นอันดับแรก นั่นเป็นเพราะตอนเช้า
ร่ างกาย และสม องจะอัดแน่นด้วยพลัง และสมาธิมากพอที่จะจัดการกับเรื่องย ากให้ผ่ านไปได้
และเมื่อผ่ านงานชิ้นย ากของวันไปได้แล้ว คุณจะรู้สึกโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก
วันนั้นทั้งวัน คุณก็ผ่อนคลาย เพราะผลักงานย ากออกไปได้แล้ว
7. จินตนาการและ วาดภาพความ สำเร็จของตัวเอง
หลังตื่นนอนเป็น ช่วงที่จิตใจค่อนข้างสงบนิ่ง มั่นคง บุคคลที่ประสบความสำเร็จ
มักจะอาศัยช่วงเวลานี้ มโนภาพความสำเร็จของตัวเองในวันข้างหน้าขึ้นมา
จะเรียกว่าเป็นการปลุกใจการคิดบวกก็ตามแต่ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น
คือ ความรู้สึกที่แน่วแน่ มั่นคง กระตือรือร้น ทัศนคติในเชิงบวก และไฟในการทำงานที่ลุกโชน
8. ฝึกปฏิเส ธให้เป็น
“ไม่” เป็นคำที่ทรงพลังมาก ไม่ใช่สิ่งน่าอับอายกับการปฏิเสธ คำขอบางคำขอ เช่น
“ผมไม่อย ากทำ ดิฉันไม่ชอบ หนูไม่อย ากได้” ฝึกพูดไว้ให้คล่องปาก
เพราะยิ่งคุณพูดปฏิเส ธ ไม่เป็นมากเท่าไหร่ โอกาสที่คุณจะรู้สึกกดดัน
ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจากการไม่รู้จักปฏิเสธคนเลยซักครั้ง
สิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และหน้าที่การงานมีก็ไม่ต่างจากที่เราทุ กคนมีเหมือน ๆ กัน
เพียงแต่พวกเขาเหล่านั้นเลือกทำ ในแบบที่ต่างออกไป นั่นคือการตื่นแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
สำหรับการทำงานในวันใหม่ แทนที่จะลุกลี้ลุกลน ตื่นขึ้นมาแล้วรีบร้อนออกไปทำงาน
ทั้ง ๆ ที่ร่ างกายและจิตใจอาจยังไม่พร้อมทำงาน แล้วคุณล่ะเลือก
ที่จะเดินออกจากบ้านอย่ างมั่นใจ หรือ วิ่งหัวซุกหัวซุน ออกไปทำงาน
ขอบคุณที่มา : lamunlamai