เรามักจะมองดูคนอื่นที่ “ประสบความสำเร็จ” แล้วเกิดความสงสัย
ทำไมมึง “ร วยจัง” ทั้ง ๆ ที่ตอนเรียนก็ไม่ได้เก่งไปกว่ากูเลย
ตอนทำงาน ก็เห็นแต่ไปเที่ยวนั่นนี่ ไม่เห็นจะทำงานเลย
แต่ชีวิตตอนนี้ กลับเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และมีรายได้มากกว่า
นั้นเป็นเพราะว่าคุณ เห็นแต่ตอนเขาสบายแล้ว แต่ไม่เห็นตอนเขาลำบาก กว่าจะมาถึงจุดนี้
แท้จริงแล้ว คนเราต่างกันเพียงนิดเดียว ตรงที่ “ความคิด” และ “การลงมือทำ”
คนเราได้ลงมือทำ ฝึกฝน แล้วจึงเก่ง แต่อะไรก็ย าก ถ้าไม่ลงมือทำ
ในขณะที่คุณกำลังนอนเอานิ้วไถโทรศัพท์ไปเรื่อย อยู่บนเตียงนอนอย่ างสบายใจ
เขากำลังไปออกกำลังกาย เป็นประจำทุ กวันหลังเลิกงาน
ดังนั้น จึงไม่แปลก ที่เขาจะมีสุ ขภาพที่ดี หุ่นที่ดูดีกว่าคุณ
ในขณะที่คุณทำงาน เอาแต่มองดูนาฬิกา ว่าเมื่อไหร่จะถึงเวลาเลิกงานสักที
เขากำลังตั้งใจทำงานอย่ างเต็มที่ หางานที่ย ากขึ้น เพื่อพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ในการทำงาน
ดังนั้น จึงไม่แปลก ที่เขาจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า แต่คุณยังอยู่ที่เดิม
ในขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้ง และใช้เ งิน
เขากำลังเพลิดเพลินกับการหาช่องทางในการทำเงิ น และอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้
ดังนั้น จึงไม่แปลก ที่เขาจะมีฐานะที่มั่นคงและร่ำร วยกว่าคุณ
ในขณะที่คุณกำลังคิดอย่ างหนัก ถึงผลประโยชนที่คุณจะได้จากฝ่ายตรงข้าม
เขากำลังคิดและพิจารณาถึงผลประโยชน์ที่ทั้งเขาและฝ่ายตรงข้ามจะได้ด้วยกัน
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เขาจะมีมิตรภาพที่ดี และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
ความสำเร็จนั้น ไม่มีปาฏิหาริย์มาช่วย มีแค่ลงมือทำด้วยตัวเอง
อย่ ารอให้เก่งแล้วค่อยลงมือทำ คนเราลงมือทำแล้วจึงเก่ง
ขอบคุณที่มา : bitcoretech