ผู้ถาม : “เวลามีคนมาขอทานหน้าบ้าน เขามักจะขอโดยการร้องเพลงย าว ๆ ฟังแล้วอดสงส ารไม่ได้ค่ะ
แต่บางทีก็รำคาญต้องรีบบอกให้หยุดร้อง ให้สตางค์แล้วก็ให้เขารีบไปเร็ว ๆ อย่ างนี้จะเป็นไรไหมคะ ?”
หลวงพ่อ : “ไม่เป็นไรหรอกหนู เมื่อสมัยบวชใหม่ ๆ หลวงพ่อปานบอกว่า ถ้าจะให้ทานคนขอทาน อย่ าให้เขาพูดมาก
หมายความว่า พอมาถึงไม่ต้องยกมือไหว้พูดขอ ถ้าเขาจะขอก็บอกไม่ต้อง
ฉันให้แล้ว ฉันเต็มใจให้แล้ว คือว่าเราจะให้ใคร อย่ าให้เขาพูดมาก อย่ าให้เสี ยเวลา ให้เร็ว ๆ ที่สุด
ตั้งใจเป็นการสงเ ค ราะห์จริง ๆ แล้วผลมันให้ชาตินี้ ฉันทดสอบมาแล้วเป็นความจริง
ถ้าเกิดไปชาติหน้าจะได้ล า ภสองแบบ หมายความบุญที่มีการเตรียมการ จะร่ำร วยจากการประกอบอาชีพ
และที่ถือของไปตามทาง เจอะที่ไหนให้ที่นั่น โดยไม่ตั้งใจไว้ก่อน จะได้ล าภลอย คือถูกล็อตเตอรี่
การให้ทานโดยไม่เตรียมการไว้ก่อน ใครมาก็ได้ เราให้ได้ ถ้าทำอย่ างนี้เสมอ ๆ
คนมาขอทานเราไม่ยอมให้พูดขอ รีบควักเลย แล้วมันจะมีผลในชาตินี้
คือสิ่งที่เราขัดข้องคิดว่าจะไม่ได้ มันจะโผล่ เราก็ให้เท่าที่เราจะให้ได้ เขาไม่บังคับเรานี่
พอทำไปไม่กี่ปีก็เริ่มให้ผล ของที่จะได้มามันมีการคล่องตัวมากขึ้น แต่ว่าเวลาให้เราอย่ าไปคิดถึงผลอันนี้นะ
ต้องให้ด้วยการสงเค ราะห์จริง ๆ คือตัดไปเลย มันได้เท่าไรก็ช่าง ถ้าไปคิดว่าเราต้องการให้ เพื่อต้องการผลตอบแทน ผลจะถูกตัด
เพราะเป็นการให้ทานประกอบด้วยความโ ลภ พ ระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ตุลิตะ ตุลิตะ สีฆะ สีฆัง ธรรมของเรามิใช่เป็นเครื่องเนิ่นช้า ต้องเร็ว ๆ ไว ๆ
อย่ างของสังฆทาน พอเราบอกพ ระไปว่าขอถวายเป็นสังฆทาน พ ระเขาจะจัดของนั้นเป็นสังฆทานโดยตรง
จะเป็นอย่ างอื่นไม่ได้ ถ้าเป็นอย่ างอื่น คนรับก็ไปน ร กซิ ผู้ให้ไปสวรรค์”
ขอบคุณที่มา : ธ ร ร ม ะ ส วั ส ดี