1. ฝึกการให้กำลังใจเพื่อสร้างความสามารถ
ควรให้กำลังใจและเสริมแ ร งให้ลูกทำในสิ่งที่ลูกสนใจ เพราะจะทำให้ลูกไม่รู้สึกกดดัน มากจนเกินไป ฮาโมนี ชู นักเปียโนระดับโลกบอ กในร า ยการทอล์กโชว์ของ เอลเลน ว่า เธอฝึกเล่นเปียโนตั้งแต่ 3 ขวบ และเล่นได้ดีเพราะได้รับกำลังใจจากครอบครัว การฝึกความพย าย ามจะสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนาตนเองต ามมา
2. ชื่นชมกับความพย าย ามของลูก
ไม่ว่าลูกจะแพ้หรือชนะ เมื่อเราโตมากขึ้นเราจะพบว่าระหว่างการเดินทางมีค่ามากกว่าจุดหมายปล า ยทาง เมื่อลูกตั้งเป้าหมายเพื่อที่จะชนะในการทำกิจก ร ร มบางอ ย่ าง แต่ต้องสะดุดล้ มหรือพลาดพลั้งไม่ไปถึงเส้นชัย ให้เราให้กำลังใจกับความพย าย ามของลูกนั้น อ ย่ าทำให้ลูกรู้สึกอายเมื่อเขากำลังพย าย าม ผลดีในระยะย าวคือลูก จะเรียนรู้ว่าความพย าย ามช่วยสร้างความมั่นใจได้อ ย่ างมากทีเดียว
3. ไม่วิพากษ์วิจารณ์การแสดงออ กของลูก
ไม่มีสิ่งไหนที่ทำให้ลูกท้อใจเท่ากับการวิพากษ์วิจารณ์ลูกในความพย าย ามของเขา การให้คำแนะนำ หรือข้ อเสนอแนะสามารถทำได้บ้ าง แต่อ ย่ าบอ กว่าลูกทำกิจก ร ร มนี้ ได้แ ย่จริง ๆ ถ้าลูกกลัวที่จะล้ ม เ ห ล วเพราะกังวลว่าจะทำให้เราโ ก ร ธหรือผิ ดหวัง ลูกจะไม่กล้าทำสิ่งใหม่ การที่พ่อแม่วิพากษ์วิจารณ์ลูกบ่อย ๆ จะทำให้ลูกรู้สึก หมดคุณค่าในตัวเองและหมดแ ร งจูงใจด้วย
4. ให้ลูกฝึกแก้ปัญหาด้วยตนเอง
ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกเสมอ ลูกจะข า ดทักษะในการพัฒนาด้านความเชื่อมั่นในการคิดแก้ปัญหาด้วยตนเอง เมื่อผู้ปกครองคอยช่วยเหลือตลอ ดเวลา ลูกจะข า ดวิ ธีรู้จักคิดแก้ปัญหาและความเชื่อมั่นในตนเองจะหมดไป นั่นหมายความว่า ยอมให้ลูกได้เกรด B หรือ C บ้ างแทนที่จะได้เกรด A ตลอ ดในขณะที่ลูกกำลัง เรียนรู้ในการแก้ปัญหาในการทำงาน
5. กร ะตุ้ นความอย ากรู้อย ากเห็น
การตั้งคำถามที่ไม่จบไม่สิ้น อาจทำให้ลูกรู้สึกเหนื่อยและเบื่อหน่าย แต่ความจริงแล้วไม่ควรเป็นอ ย่ างนั้น ผู้ปกครองควรตั้งคำถามเพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเ ด็ ก เพื่อลูกจะเรียนรู้ว่ามีหล า ยสิ่งหล า ยอ ย่ างที่เรามองไม่เห็นในโลกนี้อีกมากมายที่เรายังไม่ได้เรียนรู้ สิ่งเหล่านี้จะก ร ะตุ้ นให้ลูกมีความอย ากรู้อย ากเห็น มากขึ้น เ ด็ กที่ มาจากครอบครัวที่พ่อแม่ตั้งคำถามให้เสมอ ๆ จะเรียนรู้ได้เร็วและดีกว่าเ ด็ กที่พ่อแม่หาคำตอบให้ตลอ ดเวลา
6. ให้ลูกแสดงพฤติก ร ร มต ามวัย
ไม่ควรมีความคาดหวังให้ลูกแสดงพฤติก ร ร มเหมือนผู้ใหญ่ เมื่อลูกรู้สึกว่าต้องแสดงพฤติก ร ร มที่เหมาะสมและถูกต้องต ามที่พ่อแม่กำหนดเท่านั้นจะทำให้เห็นถึง มาตรฐานที่เป็นไปไม่ได้และจะไปลดความพย าย ามที่ลูกทำอยู่ การตั้งมาตรฐานที่ลูกไม่สามารถไปถึงได้จะลดความเชื่อมั่นของลูกลง
7. ห ลี ก เ ลี่ ย งการซิกแซก
หรือมีข้ อยกเว้นให้ลูกเสมอ การให้สิทธิพิเศษทำให้ลูกข า ดความเชื่อมั่น
8. ให้ลูกลองสิ่งท้าทายใหม่ ๆ
แสดงให้ลูกเห็นเป้าหมายที่เป็นความสำเร็จเล็ก ๆ เพื่อไปสู่ความสำเร็จของเป้าหมายใหญ่ ๆ เช่น ขี่จักรย านโดยไม่ใช้ล้อเล็กฝึกการช่วยขี่ คุณพ่อคุณแม่สามารถ สร้างความมั่นใจในตัวลูกเพิ่มขึ้นได้จากความรับผิ ดชอบต ามวัย
9. เปิดประตูสู่ประสบการณ์ใหม่ ๆ
ในฐานะผู้ปกครองเราควรช่วยเปิดโอกาสให้ลูกมีประสบการณ์ในโลกกว้างมากขึ้นเพื่อเปิดโลกทัศน์ในการเรียนรู้ การเปิดประสบการณ์ให้ลูกจะสอนให้ลูกรู้ว่า ไม่ว่าจะเจอประสบการณ์ซึ่งน่ากลัวที่เราไม่เคยเผชิญมาก่อนเราก็จะสามารถฝ่ าฟั นและเอาชนะมันได้
10. ชมเชยในความกล้าหาญเมื่อลูกเริ่มลองสิ่งใหม่
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าทีมบาสเกตบอลหรือ การลองเล่นโรลเลอร์สเก็ต ผู้ปกครองควรที่จะชมและให้กำลังใจเมื่อลูกทำสิ่งใหม่ ๆ โดยพูดคำชมง่าย ๆ เช่นเก่งมากที่ กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ความสบายมาจากการที่เราติ ดยึดกับสิ่งเก่า ๆ แต่ความกล้าหาญมาจากการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่แต กต่างจากเดิม
11. ทำความล้ ม เ ห ล วให้เป็นเกาะที่สร้างฐานการเรียนรู้
การเรียนรู้จากข้ อผิ ดพลาดช่วยสร้างความมั่นใจ แต่นั่นจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทำข้ อผิ ดพลาดเป็นโอกาสที่จะเรียนรู้เติบโตและก้าวไป อ ย่ าปกป้องลูกมากเกินไป ยอมให้ลูกล้ ม เ ห ล วบ้ างบางครั้งบางคราวเพื่อช่วยให้ลูกเกิดความเข้าใจ และมีการวางแผนที่ดีขึ้นในครั้งหน้า คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้จากข้ อผิ ดพลาด
12. ให้กำลังใจลูกเมื่อลูกเผชิญความทุ ก ข์ย ากลำบาก
ในชีวิตนั้นไม่มีความยุติธรรมและไม่มีอะไรที่ง่ายเสมอไปซึ่งลูกต้องเรียนรู้เข้าสักวันใดวันหนึ่ง เมื่อเราเผชิญกับความย ากลำบาก คุณพ่อคุณแม่ควรชี้ให้เห็นว่า เมื่อเราทนต่อความย ากลำบ ากได้จะช่วยสร้างให้เราปรับตัวในการรู้จักยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายให้ลูกฟังว่าทุ กถนนสู่ความสำเร็จ จะต้องเผชิญกับขวากหนามบ้ างอะไรบ้ าง
ขอบคุณที่มา : kiddeemak99