1. สัญญาณแบตเตอรี่
ถ้าคุณเห็นสัญญาณแบตเตอรี่ที่เป็น ขั้วบวก ขั้วลบ มันเป็นการบ่งบอกว่ารถของคุณกำลังมีปัญหาในระบบไฟฟ้า
และแบตเตอรี่รถ อาจจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับ ไดชาร์จทำงานผิดปกติ หรือ การชาร์จไฟไม่เข้าแบตเตอรี่
เมื่อเราใช้งานรถไปเรื่อย ๆ จะทำให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดของรถยนต์ไม่ทำงาน อย่ าพย าย ามที่จะใช้งานรถต่อ
เพราะหากฝืนใช้ต่อ อาจจะทำให้รถของคุณเกิดดับกลางก็เป็นได้
2. สัญญาณเครื่องหมายต กใจและวงกลม
ถ้าคุณเห็นสัญญาณเครื่องหมายต กใจ หรือสัญญาณเบรคขึ้น อาจจะเป็นไปได้ 2 กรณี คือ การดึง
หรือลดเบรคมือไม่สุด ทำให้สัญญาณนี้ขึ้นมา แต่ถ้าเราดึงเบรคมือ หรือลดเบรคมือลงสุดแล้ว
แต่ยังเห็นขึ้นมาอยู่ อาจจะเป็นปัญหาที่ระบบเบรค ต้องไปตรวจสอบที่ระดับน้ำมันเบรคก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะปกติแล้วสัญญาณนี้จะขึ้นเมื่อน้ำมันเบรคต่ำกว่าระดับปกติ
3. สัญญาณถุงลมนิรภัย
สัญญาณนี้ มักจะขึ้นค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีหลังสตาร์ทรถ ซึ่งเป็นการเช็คถุงลมของระบบตัวรถ
แต่ถ้าหลังจากสตาร์ทแล้ว สัญญาณนี้ยังไม่ดับไปเอง อาจจะมีความผิดปกติในระบบถุงลมนิรภัย
อย่ านิ่งนอนใจในเรื่องนี้ เพราะหากเกิดอุบั ติเหตุ ถุงลมอาจจะไม่ทำงานก็เป็นได้
ดังนั้นควรนำรถไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมรถโดยด่วน
4. สัญญาณตู้จ่ายน้ำมัน และมีจุด ๆ ข้างล่าง
สัญญาณนี้ มองเผิน ๆ จะดูคล้าย ๆ เวลาแจ้งเตื อนน้ำมันหมด แต่จริง ๆ แล้วมันคือ การเตื อนว่า กรองน้ำมันมีปัญหา
ซึ่งอาจจะเกิดจากที่กรองน้ำมันตัน หรืออาจจะมีน้ำผสมอยู่ในน้ำมัน ดังนั้นหากเห็นสัญญาณนี้ปรากฏ
ควรนำรถไปเช็คที่ศูนย์บริการ เพื่อทำการตรวจเช็คตัวกรองน้ำมันให้ละเอียดอีกครั้ง
5. สัญญาณรูปตะเกียงน้ำมันหยด
สัญญาณนี้จะแสดงขึ้นมา เมื่อน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์ มีต่ำมากจนหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้ไม่ทั่วถึง
การที่ฝืนใช้รถให้ทำงานต่อ จะทำให้รถมีปัญหาได้ แต่ถ้าหากเช็คแล้วน้ำมันเครื่องยังอยู่ในระดับปกติ
แต่ยังมีสัญญาณไฟปรากฏอยู่ ก็อาจจะเป็นที่ปั๊มหัวจ่ายน้ำมันเครื่อง มีปัญหาและทำให้ไม่สามารถส่งน้ำมันเครื่อง
ไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้ทั่วถึง ดังนั้นควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุที่ถูกต้องและตรงจุด
6. สัญญาณรูปเครื่องยนต์
หากปรากฏสัญญาณนี้ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมันหมายถึงว่า การทำงานของเครื่องยนต์กำลังมีปัญหา
ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมรถ เพื่อให้เช็คและตรวจสอบอย่ างละเอียดถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น
7. สัญญาณระบุตัวอักษร ABS
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ระบบเบรครถยนต์ กับ ระบบ ABS นั้นคนละส่วนกัน ซึ่งตัว ABS
จะเป็นระบบช่วยไม่ให้ล้อล็อกเวลาที่ต้องเบรคกระทันหัน จนเสี ยการทรงตัว แล้วจะทำให้รถไถลไปตามพื้นถนน
ซึ่งจะเป็นการช่วยลดโอกาสการพลิกคว่ำ ซึ่งหากหน้ารถมีการปรากฏสัญญาณ ABS หมายถึงระบบนี้กำลังมีปัญหา
ควรที่จะนำรถไปเข้าศูนย์บริการทันที แต่ในระบบเบรคนั้นยังสามารถใช้งานได้ตามปกติอยู่
ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน แต่ถ้าหากมีการเหยี ยบเบรคกระทันหันจนล้อล็อค ระบบ ABS อาจไม่ทำงาน
8. สัญญาณรูปปรอทมีขีดระดับน้ำ
หากปรากฏสัญญาณนี้ จะหมายถึง การเตื อนความผิดปกติของระบบหม้อน้ำ ซึ่งอาจจเกิดจากการมี
น้ำย าหล่อเย็นรั่ว หม้อน้ำระบายความร้อนของเครื่องยนต์กำลังมีปัญหา หรือ พัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน
การฝืนใช้รถต่อจะทำให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงเกินไป จนทำให้รถยนต์พังได้
ดังนั้นควรรีบนำเข้าอู่ หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็คและซ่อมให้เร็วที่สุด
ขอบคุณที่มา : bitcoretech