Home เรื่องน่ารู้ ไม่ต้องเป็นคนเก่งมาก ขอแค่เป็นคนดีก็พอ

ไม่ต้องเป็นคนเก่งมาก ขอแค่เป็นคนดีก็พอ

4 second read
ปิดความเห็น บน ไม่ต้องเป็นคนเก่งมาก ขอแค่เป็นคนดีก็พอ
0
264

1. ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง

ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง เพื่อเป็นพื้นฐานทักษะอื่นต่อไป

เพราะการที่เด็ ก สามารถช่วยเหลือตนเองได้ และลดการพึ่งพาคนอื่น

จะทำให้เด็ ก เกิดความมั่นใจในตัวเอง ลดความกังวล และพร้อม

ที่จะเรียนรู้ทักษะอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน

 

2. ฝึกลูกช่วยงานบ้าน

ฝึกลูกช่วยงานบ้าน เริ่มได้ตั้งแต่เล็ก โดยส่วนใหญ่ เด็ กวัย 2 ขวบ

เริ่มฟังและเข้าใจคำสั่งง่าย ๆ ดังนั้นเราควรฝึกลูก ให้ช่วยงานบ้าน

ขั้นพื้นฐาน เช่น เก็บของเล่น หลังเล่นเสร็จแล้ว นำเสื้อผ้าที่สวม

แล้วไปใส่ตะกร้าเป็นต้น การให้ลูกช่วยงานบ้าน โดยเริ่มจากสิ่ง

ที่เขาควรต้องรับผิดชอบเอง ทำให้เด็ กได้เรียนรู้ เรื่องหน้าที่ของตนเอง

ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ต่อการใช้ชีวิตในสังคม เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น

ค่อยเพิ่มหน้าที่ภายในบ้าน ให้เหมาะสมกับวัย ลูกก็จะเรียนรู้ว่า

สิ่งต่าง ๆ ที่ตนทำ มีผลกระทบต่อคนรอบข้างอย่ างไร

นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเอาใจเขาใส่ใจเรา

 

3. ฝึกระเบียบวินัย

ฝึกระเบียบวินัย เพื่อเป็นทักษะการควบคุมตนเอง และยับยั้งชั่งใจให้แ ก่ลูก

นับเป็นพื้นฐาน ต่อการทนต่อสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถทำได้

ตั้งแต่เล็ก ๆ อาทิการตื่นนอน และเข้านอนให้เป็นเวลา รับประทานอาหารเป็นเวลา

การเก็บของเล่นให้เป็นที่เป็นทาง หลังเล่นเสร็จแล้ว ไม่รับประทานขนม

หรืออาหารในห้องนอนเป็นต้น

 

4. การพาลูกพบคนหลากหลาย

การพาลูก พบคนหลากหลาย นับเป็นการฝึกให้ลูก มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

และเข้าใจสังคมมากขึ้น คือทำให้เขาเห็นว่าในโลกนี้ มีคนที่แต กต่าง หลากหลาย

ทั้งสีผิว เชื้อชาติ ภาษาและความคิด ซึ่งสิ่งที่แต กต่างเหล่านี้ ไม่ได้แปลว่าผิดเสมอไป

การพาลูก ออกเดินทางท่องเที่ยว ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนที่แต กต่าง พร้อมกับคำชี้แนะ

ที่เหมาะสม จะทำให้ลูกเข้าใจความเป็นไปของโลกใบนี้ได้ดีขึ้น

 

5. สอนเรื่องอ ารมณ์ต่าง ๆ

สอนเรื่องอ ารมณ์ต่างๆ พ่อแม่มักให้ความสำคัญ กับการสอนลูก

ให้เป็นเลิศ ในด้านวิชาการสอน เรื่องมารย าทกฎระเบียบ แต่กลับลืม

เรื่องการรับมือกับอ ารมณ์ ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ดังนั้นพ่อแม่ควรเริ่มต้น

สอนให้ลูกรู้จักอ ารมณ์ต่าง ๆ ของตน ด้วยการเอ่ยชื่ออ ารมณ์นั้น ๆ

เมื่อลูกแสดงออกมา อาทิเมื่อลูกร้องไห้ ที่ไม่ได้ของเล่น

อาจบอกลูกว่า แม่รู้ว่าลูกกำลังเสี ยใจที่ไม่ได้ของเล่น

หรือเมื่อลูกโกรธที่ถูกแ ย่งขนมต้องบอกว่า ลูกกำลังโกรธใช่ไหม

แต่แม่อย ากให้ลูกหายใจลึก ๆ ใจเย็น ๆ การสอนเช่นนี้

จะช่วยทำให้ลูก เรียนรู้ที่จะจัดการกับอ ารมณ์ของตน เมื่อโตขึ้น

และไม่นำอ ารมณ์ของตนเอง มาเป็นข้ออ้างในการทำร้ ายคนอื่น

 

6. สร้างแรงบันดาลใจด้วยเรื่องเล่า

สร้างแรงบันดาลใจ ด้วยเรื่องเล่าสำหรับเด็ กเล็กโลกของเขา

ยังไม่กว้างใหญ่มากนัก การเล่าเรื่องราวต่าง ๆ จากนิทาน

หรือเกร็ดประวัติศาสตร์อย่ างง่าย ๆ เกี่ยวกับบุคคล ที่ทำเพื่อผู้อื่น

จะช่วยทำให้ลูกเข้าใจ เรื่องการช่วยเหลือกันในสังคมได้ดีขึ้น

คนเป็นพ่อแม่ อาจถามลูกว่า หากเกิดเหตุการณ์ อย่ างในนิทานขึ้นกับลูก

ลูกจะทำอย่ างไร ลองฟังคำตอบของลูกแล้วชื่นชม หรือตั้งคำถาม

เพื่อชี้แนะแนวทางที่ถูกหลีกเลี่ยงที่จะวิจารณ์ และตัดสินว่า

คำตอบของลูก ถูกหรือผิดเพื่อให้ลูก ได้ฝึกคิดด้วยตนเอง

โดยมีพ่อแม่เป็นผู้ชี้นำแนวทางที่เหมาะสม

 

ขอบคุณที่มา : stand-smiling

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In เรื่องน่ารู้
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …