1. จิบน้ำร้อนบ่อย ๆ จะสามารถช่วยในการปรับสมดุลเกี่ยวกับอุณหภูมิในร่ างกาย
ช่วยลดความดันเลือ ดได้ ลดเส้นโลหิตสม องตีบต่าง ๆ สิ่งที่เกี่ยวกับ ต้อที่ต า บำ รุ งสายต าและไ ต
2. ทุเรียน ทุเรียนมีส ารต้านทานอนุมูลอิสระ ( โดยเฉพาะอย่ างยิ่งประเภทหมอนท อง )
การบริโภคทุเรียนในจำนวนที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเกิดโ ร คใน มนุษย์ได้
ตัวอย่ างเช่น โ ร คหัว ใ จ และก็โ ร คม ะ เ ร็ ง ฯลฯ
3. น้ำมะพร้าวอ่อน ดื่มบ่อย ๆ จะสามารถช่วยสำหรับปรับสมดุลฮอโมนให้กับร่ างกาย
ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนวันละ 1 ลูกจะช่วยฟอ กเลือ ดแล้วหลังจากนั้นก็บำ รุ งไตได้
ส่วนเนื้ อมะพร้าวนั้นจะช่วยเกี่ยวกับการบำ รุ งตั บ
4. แกนสับปะรด มีโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริย าเคมีบรอมีเลน โดยมีประโยชน์ที่ช่วยในเรื่องของการรั ก ษ าแผล
ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดี ช่วยลดปัญหาด้านการอักเสบของกระเพาะ
5. น้ำกะทิ พวกเราเอาน้ำกะทิใส่ถุงแช่ตู้เย็นไว้ 3 ชั่ วโมง เพื่อเนื้ อแล้วก็ตัวน้ำแยกชั้นกัน
นำเนื้ อมะพร้าวส่วนบนไปต้มจนกระทั่งกล า ยเป็นน้ำมัน มะพร้าวสามารถเก็บไว้ใช้ได้นาน 3 เดือน
6. กาแฟ มีคาเฟอีน ที่มีประโยชน์ช่วยในเรื่องที่เกี่ยวพันกับการกระตุ้นหลักการทำงานของร่ างกาย
ดื่มกาแฟวันละ 1-2 แก้วโดยไม่ใส่น้ำต าล ถ้าต่างประเทศได้มีงานศึกษาเรียนรู้ออ กมาว่า
จะช่วยทำให้สม องรู้สึกปลอ ดโปร่ง รู้สึกกระชุ่มกระชวย มีไอเดียมีความคิดในการสร้างสรรค์งาน มากกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟเลย
7. กล้วยไข่ กินบ่อย ๆ จะช่วยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการหยุดผมหลุดร่วง คุ้มครองปกป้องเกี่ยวกับความจำไม่ดี
อัลไซเมอ บำ รุ งเกี่ยวกับสม อง ตั บและไต อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโ ร คม ะ เ ร็ งต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ช่วยบำ รุ งรั ก ษ ากะดูก บำ รุ งเกี่ยวกับสายต า การมองมองเห็น
8. กล้วยน้ำว้า กินวันละ 2 ลูก นำไปปิ้งไฟทั้งยังเปลือ กจะช่วยในเรื่องของการลดไข้
แก้เ จ็ บคอ บำ รุ งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตั บอ่อน
9. ดื่มน้ำแตงโมเสมอ กล่าวได้ว่าเป็นผลไม้บำ รุ งร่ างกายอย่ างดีเยี่ยม ถ้าผู้ช ายกินเสมอ ๆ
จะช่วยส่ งเสริมในเรื่องของความสามารถทางร่ างกายได้เป็นอย่ างดี ทำให้มีกำลัง
ช่วยทำนุบำ รุ งเลือ ดทำให้ไหลเวียนรุ่งเรืองขึ้น ช่วยไขปัญหามือเท้าช า
10. ไข่ต้ม กินวันละ 2 ฟองจะช่วยลดระดับปริมาณน้ำต าลในเลือ ดได้ มีการค้นคว้าศึกษาค้นคว้าของฮาร์วาร์ดพบว่า
ถ้าหากบริโภคไข่ต้มวันละ 3 ฟอง สำหรับคนที่อายุน้อยกว่า 45 ปี และบริโภควันละ 2 ฟองสำหรับคนที่อายุราว 45-50 ปี
จะมีประโยชน์มากยิ่งกว่าการดื่มนม 5 กล่อง
ขอบคุณที่มา : narukdee