คำว่า ไม่มีเ งิน เราเคยได้ยินคนพูดมานักต่อนัก ทำไมถึงไม่มีเงิ น ทั้ง ๆ ที่ร่ างกายก็สมบูรณ์
แบบใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ เพราะอะไร คงจะเป็นเพราะข าดความอดทน?
โยมบางคนมาถามเรื่องกสิณ บอกว่าผมจับภาพกสิ ณ ภาวนาแล้วแต่ทำไมยังไม่เกิดผล
อาตม าถามว่าคุณภาวนากี่ครั้ง ถึงร้อยครั้งหรือยัง ?
เขาก็อึ้งไปสักพักหนึ่ง แสดงว่าร้อยครั้งยังไม่ถึงเลย จึงบอกเขาไปว่า คุณไปเปิดหนังสือคู่มือปฏิบัติกร รมฐาน
หรือหนังสือกร รมฐาน ๔๐ ของหลวงพ่อวัดท่าซุงดู ในเรื่องการฝึกกสิณ
ท่านบอกว่า ให้ลืมตามองภาพ หลับตาลงนึกถึงภาพนั้น พร้อมกับกำหนดลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา
พอภาพเลือนไปให้ลืมตาดูใหม่ หลับตาลงกำหนดนึกถึงภาพนั้น
พร้อมกับลมหายใจและคำภาวนา ทำอย่ างนั้นเป็นหมื่น เป็นแสนครั้ง จนกว่าภาพนั้นจะเริ่มติ ดตาติ ดใจ
ทีนี้เขาเองหลักร้อยยังไม่ผ่ านเลย แล้วจะไปกล่าวถึงเป็นหมื่นเป็นแสนได้อย่ างไร
เมื่อตอนบ่ายมีโยมมาปรารภว่า ตอนนี้การทำมาหากินลำบากมาก จะแก้ไขด้วยวิ ธีไหน? อาตมาก็แจ้งแ ก่โยมไปว่า
ให้ใช้คาถาเ งินล้านเป็นกร รมฐาน เขาบอกว่าภาวนาเป็นประจำเช้าเย็นอยู่แล้ว อาตมาถามว่ากี่จบ? เขาบอกว่าเช้า ๙ จบ เย็น ๙ จบ
อาตมาจึงบอกว่า “โยมรู้ไหมว่า ถ้าอาตมาแนะนำให้ภาวนา ต่ำสุดจะให้เริ่มที่ ๑๐๘ จบ”
ยังดีกว่าโยมอีกคน เขาบอกว่าท่องคาถาเงิ นล้านมา ๒ เดือนยังไม่เห็นผล เราก็แปลกใจ เพราะถ้า ๒ เดือน
ทำจริง ๆ ต้องเห็นผล ถามว่าโยมภาวนาครั้งละกี่จบ ? เขาว่าครั้งละ ๑ จบ แหม..น่าได้ผลจริง ๆ เลย
“การที่ให้เราภาวนามาก ๆ ก็เพราะว่าระยะเวลาที่ย าวนาน จะทำให้สมาธิของเราตั้งมั่นมากขึ้น”
เนื่องจากเรื่องของคาถาขึ้นอยู่กับสมาธิเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งสมาธิสูงเท่าไร คาถาจะยิ่งให้ผลมากขึ้น
ดังนั้น.. การที่พวกเราทั้งหมดในปัจจุบัน ทำแล้วไม่ได้ผลเพราะไม่มีการทุ่มเท
สมัยที่อาตมาภาวนาคาถาปัจเจกพ ระพุทธเจ้า อาตมาภาวนาครั้งละ ๙ จบ
ทำไปประมาณ ๓ เดือน ก็เริ่มเห็นผล พอมาปี ๒๕๒๘ หลวงพ่อท่านมอบคาถาเ งินล้านให้ ก็มาปฏิบัติภาวนาดู
ตอนนั้นติ ดใจในการภาวนาคาถาบารมี ๓๐ ทัศ ก็เลยกำหนดว่า เราภาวนาคาถาเงิ นล้าน ๙ จบ น่าจะน้อยไป
เพิ่มเป็นวันละ ๓๐ จบดีกว่า จาก ๓๐ จบ ทำไป ๆ เริ่มเห็นผล ก็มานึกว่า
สมัยหลวงปู่ป่าน ท่านมอบคาถาพ ระปัจเจกโพธิโปรดสั ตว์ให้แ ก่ลูกศิษย์ แล้วมีบุคคลตัวอย่ างที่ทำแล้วได้ผล
ก็คือท่านนายห้ างประยงค์ ตั้ งตรงจิต เจ้าของห้างขายย าตราใบโพธิ์
หรือนายแจ่ม เปาเล้ง ชาวดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เป็นบุคคลตัวอย่ างที่หลวงพ่อท่านยกให้ลูกศิษย์ฟัง
ถ้ายิ่งได้พ ระประธานในโบสถ์ยิ่งดี ก็แปลว่าพี่เขาเอาบุญใหญ่อย่ างเดียวแต่ของเรานี่เล็กน้อยแค่ไหน
ขอให้รู้เป็นทำหมด พอหน้ากฐิ นก็เตรียมซองปัจจัยไว้ซองละ ๑,๐๐๐ บาท
วัดไหนมีกฐินร่วมกับเขาหมด ๑,๐๐๐ บาท พร้อมผ้าไตร ๑ ชุด ทำจนไม่ต้องนับ บางปีก็ ๔๐ ? ๕๐ วัด ก็มี
ดังนั้น..โยมที่บอกว่า ลำบากในเรื่องทำมาหากิน ถ้าตั้งใจภาวนาคาถาเงิ นล้านจริง ๆ ไม่เกิน ๒ เดือน
จะมีความคล่องตัวแน่นอน ที่กล้ายืนยันเพราะทำเห็นผลด้วยตนเองมาแล้ว
ทุ กวันนี้ ที่บรรดาเพื่อนพ ระเห็นว่าอาจารย์เล็กร วย ก็คืออานิสงส์ของคาถาเงิ นล้านนั่นเอง เมื่อเดือนก่อนตอนประชุมพ ระนวกะ
ท่านเจ้าคณะตำบลชะแ ล เขต ๑ ก่อนหน้านี้เคยเป็นคู่เขยกัน คือท่านเป็นเจ้าคณะตำบลชะแ ลเขต ๑
อาตมาเป็นเจ้าคณะตำบลชะแ ลเขต ๒ เขาก็เลยเรียกกันว่าเป็นคู่เขยกัน
พอท่านมาถึงก็บอกว่า “อาจารย์..ผมติ ดห นี้ค่าวัสดุก่อสร้างอยู่ ขอยืมสักสี่แสนสิ” อาตมาก็หัวเราะบอกว่า
“รู้ไหม..ที่เห็นว่าผมร วยเป็นเพราะผมใช้เงิ นไม่คิด มีเท่าไรผมก็ทุ่มออกเพื่องานส่วนรวมหมด คนที่ทำได้ทุ กงาน
ทำได้ทุ กครั้ง คนเขาจะเห็นว่ารว ย แต่จริง ๆ แล้ว ผมไม่มีเงิ นเก็บ ส่วนคนไหนก็ตามที่ไม่ยอมทำอะไรเลย
ส่วนใหญ่เขามีเงิ นเก็บท่วมหัวทั้งนั้น ลองไปขอยืมเขา ดูก็แล้วกัน”
แปลกดี..บางวันอาตมาเหลือเงิ นติ ดตัวอยู่แค่ ๒๒ บาทเท่านั้น! หลวงปู่ป าน วั ดบางนมโค ท่านแนะนำเอาไว้
ท่านบอกว่า จะมากจะน้อย ขอให้มีเงิ นติ ดตัวไว้ บาทหนึ่งสลึงห นึ่งก็ยังดี ถ้าใช้คาถาเงิ นล้านของท่าน
“อย่ าพูดคำว่าไม่มีเ งิน” อย่ างไรก็ต้องมี “ถ้าหากว่าโยมมีเหรียญที่ไม่ได้ใช้ ก็ใส่ ๆ กระเป๋าไว้บ้าง
อย่ างไรก็ให้มีเ งินติ ดกระเป๋าอยู่ เป็นการแก้เคล็ด” ในสมัยของหลวงปู่ป าน มีลูกศิษย์ที่ทำคาถาพ ระปัจเจกโพธิโปรดสั ตว์
แล้วประสบผลสำเร็จเป็นตัวอย่ างให้คนอื่นได้ พอมาถึงรุ่นหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านไม่ได้ยกตัวอย่ าง
แต่อาตมาก็ทำให้เห็นแล้วว่า ถ้าทำจริงก็มีผลจริง ๆ เหลือแต่พวกเราทั้งหลายว่าจะมีใครทุ่มเทจริงจัง
เมื่อถึงเวลาแล้วจะได้ประกาศ อย่ างเต็มปากเต็มคำว่า เราปฏิบัติกร รมฐานแล้วได้ผล โดยเฉพาะในส่วนของคาถาเงิ นล้าน
ที่มีอานิสงส์พิเศษก็คือ ความคล่องตัวในความเป็นอยู่ อานิสงส์ของการภาวนานั้น เราได้พุทธานุสติเต็ม ๆ อยู่แล้ว
เพราะเป็นคาถาที่พ ระพุทธเจ้าท่านมอบให้มา ถ้าเราต้องการไปนิพพานก็ภาวนาคาถาเงิ นล้าน
แล้วเอาใจเกาะพ ระนิพพานไว้ ในส่วนของการดำรงชีวิตอยู่ เราต้องการผลพิเศ ษของคาถาไปทำจริง ๆ สักที
เราต้องกล้าคิด กล้าทำ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าไม่มีใครกล้าเราก็ว่าเสี ยเอง ทำตัวเองให้เป็นบุคคลในประวัติศ าสตร์เสี ยเลย
ถ้าเราทำได้ผล ถึงเวลาไปสอนคนอื่น ก็จะสอนได้อย่ างเต็มปากเต็มคำอีกด้วย