Home เรื่องน่ารู้ วิ ธีขอขึ้นเงิ นเดือน แบบมืออาชีพ

วิ ธีขอขึ้นเงิ นเดือน แบบมืออาชีพ

2 second read
ปิดความเห็น บน วิ ธีขอขึ้นเงิ นเดือน แบบมืออาชีพ
0
318

1. ขอเงิ นเดือนเพิ่ม เมื่อถึงจังหวะ

จังหวะ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเจรจาต่อรองไม่แพ้เรื่องไหน ๆ หากคุณต้องการเจรจาขอเงิ นเดือนเพิ่ม

ที่จริงก็เริ่มได้ตั้งแต่เมื่อคุณได้รับการต กลงสมัครรับเข้าทำงานในวันแรก นั่นจะเป็นการเจรจาเรื่องเกี่ยวกับเงิ นในครั้งแรก

หลังจากนั้นก็จะมีช่วงเวลาที่คุณผ่ านโปร ก็เป็นโอกาสที่สำคัญเช่นกัน รวมไปถึงเมื่อถึงหมุดหมายสำคัญต่าง ๆ

เวลาผ่ านไป 6 เดือน 1 ปี หรือเมื่อจบโปรเจคใหญ่ ๆ ได้สำเร็จ ถือเป็นจังหวะที่ดี แต่ควรมีการฝึกฝน

โดยเคล็ดลับการขอเงิ นเดือนเพิ่มให้ประสบความสำเร็จคือ

1. รอจนกว่าจะได้รับเข้าทำงานจริง ๆ หรือผ่ านช่วงเวลาที่สำคัญ

2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ของอาชีพตัวเอง เปรียบเทียบเยอะ ๆ

3. ตั้งเงิ นเดือนที่คุณต้องการไว้ในใจ

4. ตั้งเป้าหมายในการเจรจา

5. หาเหตุผล และวัตถุประสงค์ในการขอเ งินเดือนเพิ่ม

6. ฝึกซ้อมเจรจา ด้วยการพูดคุยกับเพื่อน

 

2. ทำ ล า ยความเชื่อที่ว่า เจ้านายจะรู้สึกไม่พอใจเมื่อมีการขอขึ้นเงิ นเดือน

หลายคนมักสร้างความกลัวให้กับตัวเองไปก่อน เพราะคิดว่าการเจรจาเกี่ยวกับเรื่องเ งิน

จะทำให้เจ้านายหรือ HR ของบริษัทไม่พอใจในตัวคุณ จนเป็นการปิดโอกาสของตัวเองในการที่จะสร้างรายได้เพิ่ม

อย่ าลืมว่าคุณคือฟั นเฟืองที่สำคัญของบริษัท คุณคือคนที่ทำงานเพื่อให้บริษัทเติบโตไปในวันข้างหน้า

แล้วถ้าบริษัทอย ากจะเติบโตไปพร้อมกับคุณ ถ้าคุณขอสิ่งใดกับบริษัทไปแล้ว

พวกเขาควรที่จะพิจารณาเพื่อที่จะดึงคุณไว้ให้อยู่กับบริษัท

นี่คือวิ ธีการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง เพื่อทำให้คุณมั่นใจ

และหากคุณสามารถตัดเหตุผลส่วนตัวต่าง ๆ ออกไปได้ การเจรจาจะราบรื่นแน่นอน

 

3. อย่ าเพิ่งเจรจาถึงเงิ นเดือนที่ต้องการโดยตรง

อย่ าเพิ่งบอกตัวเลขเงิ นเดือนที่คุณต้องการโดยตรง เพราะนั่นอาจจะทำ

ให้คุณได้เงิ นเดือนเพิ่มน้อยกว่าที่คุณควรจะได้จริง ๆ ก็เป็นได้

ควรเจรจาถึงผลประโยชน์ที่ทางบริษัทจะได้รับเมื่อจ่ายค่าจ้างคุณเพิ่ม โน้มน้าวใจให้เขาเชื่อในตัวคุณ

เรื่องตัวเลขเงิ นเดือนมันเป็นเรื่องที่สามารถยืดหยุ่นได้ บางครั้งสวัสดิการอื่น ๆ

ที่จะได้รับก็อาจจะเหมาะสมกับคุณกว่า และทางบริษัทอาจจะรู้สึกดีกว่าจ่ายเงิ นเดือนเพิ่มตรง ๆ

เช่นอาจจะขอทำงานจากที่บ้ าน ขอวันหยุดเพิ่ม ขอทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์

หรือขอค อ ร์ สเรียนต่าง ๆ หลาย ๆ อย่ างที่คุณขออาจมีผลประโยชน์ทางภาษีที่ดีกว่าสำหรับบริษัท

แต่หากคุณต้องการเงิ นเดือนเพิ่มจริง ๆ ลองดูข้อต่อไป

 

4. พูดถึงเป้าหมายที่มีร่วมกันในอนาคต

วิ ธีหนึ่งที่ดี คือการพูดถึงเป้าหมายที่มีร่วมกันในอนาคต เหตุผลอะไรที่บริษัทและเจ้านายของคุณควรจะมีคุณไว้

ซึ่งหากเราพูดคุยเจรจา วาดฝันเป้าหมายในอนาคตร่วมกันได้ละก็ จะทำให้เจ้านาย

รู้สึกว่าคุณคือพวกของเขา ทีมเดียวกันกับเขา และคือคนที่อย ากจะเติบโตไปพร้อม ๆ กัน

การวาดเป้าหมายในอนาคตจะทำให้ตัวเจ้านายหรือเจ้าของบริษัทมั่นใจในตัวคุณ และมั่นใจในตัวเองด้วยว่า

สิ่งที่เขาทำอยู่จะไปรอดเพราะมีคุณ เมื่อเขาเชื่อมั่นในตัวคุณแล้ว เงิ นเดือนที่คุณขอ อาจได้มากกว่าที่คุณต้องการอีกด้วย!

จงเป็นคนที่ทำงานดี มุ่งมั่น และทำให้ทุ กคนเห็นคุณค่าในตัวคุณ นี่คือคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

 

5. ปรึกษากับเพื่อนที่ทำงานในแวด วงเดียวกัน

แม้ว่าทางบริษัท หรือ HR จะมีกฏว่าห้ามเผยแพร่เงิ นเดือนให้ผู้อื่นรับรู้ เพราะอาจเป็นเรื่องที่ทำให้แต่ละฝ่าย

ไม่สบายใจได้ แต่คุณควรพูดคุยกับคนในอุตสาหกรร มเดียวกันบ้ าง ว่าได้เงิ นเดือนเท่าไหร่ สวัสดิการเป็นอย่ างไร เพื่อที่จะได้

พิจารณาถึงทางเลือกอื่น ๆ ในชีวิตไว้บ้ าง การมีข้อมูลในการต่อรองในหัวไว้เยอะ ๆ จะทำให้คุณสามารถเจรจาต่อรองได้ดีขึ้น

สิ่งที่ทำให้ฐานเงิ นเดือนของแต่ละคนต่างกัน คือ

สถานที่ในการทำงาน

ระดับการศึกษา

ใบรับรองจากสถาบันต่าง ๆ

ประสบการณ์ในการทำงาน

ตำแหน่ง

 

6. จังหวะที่ดีในการมองหาเงิ นเดือนเพิ่ม ก็ตอนที่คุณมีงานทำอยู่แล้ว หรือได้รับข้อเสนอจากที่ใหม่

ไม่ควรเอาตัวเองไปอยู่บนความเ สี่ ย ง และหากคุณเป็นคนทำงานที่เก่ง

ทำงานดี เป็นที่นิยมชมชอบ หรือเริ่มมีชื่อเ สียงเพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกร รม

จนได้รับข้อเสนอจากที่ใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ง่ายมาก

ในความเป็นจริงต่อให้คนไทยจะมี 70 ล้านคนแล้ว

แต่คนที่ทำงานในแวด วงเดียวกันย่อมรู้จักกันได้ง่าย

โอกาสที่จะได้รับข้อเสนอจากบริษัทอื่น ๆ ก็มีเสมอ หากคุณทำงานดีจริง ๆ

คุณสามารถนำข้อเสนอที่ได้รับจากบริษัทอื่น มาใช้เจรจาต่อรองกับบริษัทปัจจุบันของคุณได้

ส่วนใหญ่จะมีโอกาสได้รับเงิ นเดือนเพิ่มขึ้น หากทางบริษัทเดิมของคุณอย ากให้คุณอยู่

แต่ไม่ได้เสนออะไรเพิ่มเติมให้กับคุณ การพิจารณาย้ ายงานอาจเป็นทางออกที่ดีก็ได้

อย่ าลืมว่า การยื้อทางวาจา ไม่ได้มีผลอะไรขนาดนั้น สหภาพแรงงานมีกฏหมายคุ้มครองคนทำงานอยู่แล้ว

หากคุณอย ากลาออกหรือย้ ายงานก็เป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ทันที (อาจมีระยะเวลาส่งมอบงาน 30 วันก่อนย้ าย)

 

ขอบคุณที่มา : jingjai999

Load More Related Articles
Load More By erz
Load More In เรื่องน่ารู้
Comments are closed.

Check Also

ตัวเราก็มีค่า ในแบบตัวเรา

เมื่อชีวิตต้องพบ กับความผิดหวัง แพ้พ่าย เสี ยใจ การมีใค … …