1. ความสนใจ เคล็ดลับหนึ่งของความสำเร็จก็คือ ตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า “เราชอบอะไร รักอะไร”
เพราะสิ่งที่เรามีใจรัก เราจะสามารถอยู่กับมันได้นานที่สุดโดยไม่รู้สึกเลยว่า “นี่กำลังทำงานอยู่”
ถึงแม้ว่าไอดอลของเราจะมีสิ่งที่สนใจเหมือนกับเรา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “โอกาสประสบความสำเร็จจะเหมือนกัน”
เพราะนี่เป็นเพียงแค่สิ่งที่อยู่ในขั้นของจินตนาการหรือแรงจูงใจเท่านั้น ยังไม่ได้อยู่ในกระบวนการลงมือทำ
2. การเรียนรู้ ไม่มีใครเก่งได้ในทันทีโดยที่ไม่เรียนมาก่อน การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญเสมอ
ถ้าเข้าใจว่าเรียนไปทำไมในเมื่อเศรษฐีหลายคนก็จบแค่ ป.4 หรือเศรษฐีระดับโลกก็ยังโดนไล่ออกมาแล้ว
นั่นเป็นข้อสงสัยที่ตื้นเขินเ สียจริง การเรียนรู้ที่ว่า ไม่ได้หมายความว่าเข้าสถาบันดัง ๆ หรือได้เกรดงาม ๆ เท่านั้น มันคือการ “เรียนให้รู้”
ในเมื่อเรายังไม่มีแนวทางเป็นของตัวเอง ยังไม่ชำนาญในหลายอย่ าง เราก็ต้องเรียนให้รู้ในหลายอย่ างไว้น่ะสิ
3. การสั่งสมประสบการณ์ ไม่มีความสำเร็จไหนไม่แลกมาด้วย ชั่ ว โ ม ง บินที่สูง
หากลอง อ่ า น ชีวประวัติของบุคคลดังระดับโลก จะพบได้ว่า แต่ละคนล้วนแต่มีประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชน
เคยผ่ านช่วงเวลาที่ แ ส น ส า หั ส หลายครั้งจนกว่าจะมีวันที่โลกต้องจารึกชื่อเอาไว้
โลกนี้ไม่อาจบอกได้เป็นหน่วยวัดที่แน่นอนว่าต้องใช้กี่ ชั่ ว โ ม ง กี่วัน ถึงจะประสบความสำเร็จอย่ างจริงจัง
เพราะแต่ละคนมีศักยภาพไม่เท่ากัน แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ยิ่งฝึกฝนตัวเองให้ผ่ านบททดสอบที่ โ ห ด หิ น มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะสำเร็จยิ่งมากเท่านั้น
4. โอกาสหรือโ ชคชะตา โอกาสเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ ย า ก มากว่าจะมาหาเราเมื่อไหร่
แม้แต่คนที่เป็นCEOแถวหน้าของโลกก็ยังงงกับตัวเองเลยว่า “ความสำเร็จแต่ละขั้น มันมาได้ยังไงนะ ทั้งที่ตอนนั้นก็ไม่เคยคิดเลย?”
เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดเสมอคือ ต้องฝึกให้หนักและวิ่งหาโอกาสแสดงศักยภาพตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ดังนั้น การจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้มันไม่ใช่เรื่องของ “ความฟลุค” แต่มันคือคำถามที่ว่า “เราวิ่งเข้าหาโอกาสได้เต็มที่ที่สุดหรือยัง?”
เพราะโอกาสมันไม่เคยรอใคร และโอกาสมันก็ไม่เคยมีขาเดินมาหาเราเองถ้าเราไม่สะสมความรู้ความสามารถให้มากพอ
ขอบคุณที่มา : sabailey