1. ที่อยู่อาศัย ประหยัดได้ยิ่งดี
มนุษย์เงิ นเดือนหลายคนต้องหักเ งินเดือนครึ่งหนึ่งเป็นค่าเช่าที่พัก
ถ้าคุณอยู่บ้านหรือที่ทำงานคุณให้ที่พักฟรีล่ะก็ ไม่ต้องอายคนอื่นว่าจะเป็นการเกาะใครกินรึเปล่า?
มาโฟกัสที่การเก็บเงิ นดีกว่านะ ยิ่งเราจ่ายให้ค่าที่พักได้น้อยมากหรือไม่จ่ายเลย
เรานี่แหละมีโอกาสเป็นนายตัวเองได้ไว ถ้าเทียบกับคนอื่นที่ยังติ ด วงจรใช้เ งินแบบเดือนชนเดือน
ในกรณีที่คุณจำเป็นต้องเช่าที่พักเอง หาที่อยู่ที่ปลอดภัยในวงเงิ นแค่ 2,500-3,000 บาท/เดือน เป็นอันพอ
2. อ า ห า ร มื้อหลัก ทานแบบถูกหรือฟรีก็ได้
มื้อหลัก ๆ ที่ทานไว้ กั น ต า ย ไม่จำเป็นต้องอร่อยมาก แต่ขอให้เน้นอิ่มไว้
เช่น อ า ห า ร ที่บ้าน, อ า ห า ร ในโรง อ า ห า รที่ทำงาน คุณจะได้มีเงิ นเก็บอีกเยอะไปทำอะไรก็ได้
แต่อย่ าลืมคำนึงถึง สุ ข ภ า พ ตนเองด้วย อย่ าทานของที่ไม่มีประโยชน์
อย่ าถูกจนเข้าข่ายอดมื้อกินมื้อ ให้รางวัลตัวเองด้วยการทานของอร่อย ๆ ในวันหยุดแต่ละสัปดาห์บ้างก็ดีนะ
3. อย่ าจำกัดสกิลตัวเอง
อย่ าคิดว่าเรามีความสามารถแค่นี้ ก็สมควรที่จะได้ทำงานแค่นี้ รับผิดชอบงานแค่ไม่กี่อย่ าง มีเงิ นเดือนแค่หลักพัน
คุณต้องเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับตัวเองด้วยการ ‘อัพสกิล’
เช่น เก็บเ งินไปสอบวัดระดับภาษาให้ผ่ านเพื่อนำผลสอบนั้นไปยื่นเรื่องปรับเงิ นเดือนหรือ ย้ า ย ไปสมัครงานที่ใหม่
หารายได้เสริมจากทักษะที่ตนเองถนัด, ขยันทำโอทีเท่าที่จะมีแรงทำได้ (แต่ไม่หนักมากจนหักโหม)
4. โอกาสทางสังคมไม่จำเป็นต้องแพง
การประหยัด นอกจากไม่ได้แปลว่าการอดมื้อกินมื้อ ยังไม่ได้หมายถึงการงดเข้าสังคมด้วยเช่นกัน
การเข้าสังคมยังเป็นสิ่งที่จำเป็นเสมอในการทำงาน เพราะมันจะทำให้เราเข้าใจเพื่อนร่วมงานได้มากขึ้น
ติ ดต่อ สื่ อ ส า ร ทั้งในและนอกเวลางานได้ลื่นไหลขึ้น ไม่จริงเสมอไป
ว่ามันจะต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่แพง ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มันเป็นค่าใช้จ่าย
ที่แลกกับมิตรภาพและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น และเราก็เลือกได้ว่าจะเข้าสังคมแบบไหนถึงจะเหมาะ
เช่น ทาน อ า ห า ร ร่วมกันในร้านที่ไม่แพงมาก แ ช ร์ อ า ห า ร กลางวันที่ทำมาจากบ้านร่วมกัน,
ไปทำบุญร่วมกัน เอาที่ตัวคุณเองสบายใจ และไม่สร้างความขัดแย้งกันก็พอ
ขอบคุณที่มา : sabailey