รถยนต์เมื่อใช้ไปนาน ๆ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องการสึกหรอของรถยนต์ที่อาจเป็นเรื่องปกติ
แต่ส่วนปัญหาแอร์รถยนต์ที่อาจจะไม่เย็นบ้างครั้งมีแต่ลมออ กมาหรือลมแอร์ไม่ค่อยแ ร งเกิดจากอะไร
หล า ยคนอาจจะเคยเจอปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็น ก็มักจะต้องเ สี ยเงิ นเยอะ ๆ ไปกับการซ่อม
ซึ่งบางทีเราก็แก้ไขเองได้หากปัญหามันยังไม่หนักขนาดถึงกับต้องพึ่งช่างซ่อม
และการใช้งานอ ย่ าง ถน อ ม ใช้งานรถอ ย่ า งร ะมั ดร ะวั งจะทำให้แอร์ของเรานั้นเย็นฉ่ำได้ย า วนาน คุ้มค่า
มาดูกันว่าทำอ ย่ า งไรเพื่อให้แอร์รถยนต์ของเรานั้นเย็นฉ่ำชื่นใจได้เสมอ
1. จัดการไ ล่ ความร้อนก่อน
เวลาจอ ดรถต ากแดดนั้นไม่แน่ใจเลยว่านั่นรถหรือเตาอบเพราะว่าร้อน มาก ๆ
วิ ธีแก้คือให้ทำการปิดสวิตช์ A/C ไว้เหมือนเดิม
แล้วเปิดพัดลมไล่ความร้อนเ สี ยก่อน จากนั้นสักพักเราค่อยเปิดสวิตช์ได้เลย
2. ปิดสวิตช์ A/C ก่อนจะสต าร์ทรถ
การปิดสวิตช์ A/C นั้นเป็นการทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานหนัก เป็นตัวคุมคอมเพรชเซอร์
หากเราเปิดไว้จะเป็นตัวฉุกกำลังรถในตอนที่เริ่มสต าร์ทนั่นเอง ฉะนั้นแล้วก็ควรจะปิดเ สี ยก่อน
3. ใช้พัดลมความเร็วสูงก่อนจะปรับอุณหภูมิ
หลังจากที่เราสต าร์ทเครื่องแล้วก็อ ย่ าเพิ่งปรับอุณหภูมิแอร์ แต่ให้เปิดเป็นพัดลมความเร็วสูงก่อน
เป็นการไล่ความร้อนในระบบแอร์ พอเปิดพัดลมไปสักพักแล้วค่อยเปิดสวิตช์ A/C
และจัดการปรับอุณหภูมิความเย็นไว้ต ามใจชอบได้เลย
4. ห้ามใช้น้ำหอมที่มีแ อ ล ก อฮ อล์ในรถ
หากอ ย า กจะให้รถมีก ลิ่ นหอมก็ควรจะเลือ กน้ำหอมสำหรับรถยนต์ยี่ห้อที่มีความน่าเ ชื่ อถือมาใช้
เพราะบางทีแค่น้ำหอมที่เราฉีดใส่ตัวเราก็รบกวนแอร์มากพอแล้ว
หากเราใช้น้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์จะทำให้ช่องแอร์เ สี ยเร็ว
5. อากาศเย็น มากไปให้ปรับอุณหภูมิสูงขึ้น
เวลารู้สึกว่าเย็นไปก็อ ย่ าใช้วิ ธีหันช่องแอร์ไปทางอื่น แต่ให้เปลี่ยนเป็นปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้น
จนรู้สึกว่าปกติและไม่หนาวเย็นจนเกินไป หากเราหันช่องแอร์หนี
ก็ทำให้คอมเพรสเซอร์ยังทำงานหนักไปโดยที่ไม่จำเป็นเลย
6. อ ย่ าเ ปิ ด กระจกบ่อย
เนื่องจากการเปิดกระจกบ่อยนั้นจะทำให้ฝุ่นเข้ามาในรถได้ง่ายแถมความร้อนจากด้านนอ กยังเข้ามาอีกด้วย
หากเปิดกระจกถ้าจะให้ดีก็ควรจะปิดช่องปรับอากาศก่อน ล ดฝุ่นไม่ให้เข้าไปได้
หากฝุ่นเข้าไปการใช้งานของแอร์ก็สั้นลงไปอีก
7. ก่อนจะถึงปล า ยทางปิดสวิตช์ A / C ก่อน
ซึ่งหากเรารู้ว่าใกล้จะถึงแล้วในอีก 10 นาที 5 นาที ก็ทำการปิดสวิตช์ A / C ได้เลย
แล้วเปิดเป็นพัดลมความเร็วสูง เป็นการล ดภาระการทำงานคอมเพรสเซอร์อีกทางหนึ่ง
และลมยังไล่ความชื้นในรถได้อีกด้วย ล ดการเหม็นอับ ล ดการเกิดเ ชื้ อแ บ ค ที เ รี ย
8. เมื่อแก้ยังไงมันก็ไม่เย็นขั้นสุดท้ายก็ง้อช่างได้เลย
มันคงเป็นทางเลือ กสุดท้ายแล้ว ในเมื่อเราไม่สามารถจะแก้ปัญหาเองได้
ก็ต้องยอมพึ่งช่างที่ชำนาญการให้จัดการให้ดีกว่า แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายต ามมาด้วย
สำหรับใครที่มีปัญหาอยู่ก็ลองนำไปปรับใช้ดู แต่ก็นะถ้าหากมันไม่ไหวแล้วจริง ๆ ก็ อ ย่ าฝืนเลย
รถแอร์ไม่เย็นเป็นอะไรที่มันทรมาน มาก ๆ แทบจะห า ยใจไม่ออ กเลยทีเดียว
โดยเฉพาะหน้าร้อนแบบนี้อยู่ย า กมาก ๆ เลยล่ะ
ขอบคุณที่มา : kiddeemak99